นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงหยุดยาวต่อเนื่อง 3 วัน ในช่วงวันมาฆบูชาปี 2560 ระหว่างวันที่ 11-13 ก.พ. 2560 คาดว่าจะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไม่น้อยกว่า 1.59 ล้านคน-ครั้ง และมีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียน 4,974 ล้านบาท มีอัตราการพักแรมเฉลี่ย ประมาณ 70% โดย 10 จังหวัดยอดนิยม ได้แก่ ชลบุรี กรุงเทพฯ นครราชสีมา กาญจนบุรี สงขลา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี เชียงใหม่ ระยอง และพระนครศรีอยุธยา
อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกเป็นภูมิภาคพบว่า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น เชียงใหม่ ลำปาง ตาก แพร่ น่าน เลย เป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมสูง โดยจังหวัดคาดว่าจะมีอัตราการพักแรมไม่ต่ำกว่า 60-70% เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นระลอกใหม่ที่จะเข้ามาในช่วงสุดสัปดาห์ และกับมีการจัดกิจกรรมเทศกาลดนตรีและดอกไม้ ได้แก่ งานอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ที่ จ.เชียงใหม่ งานเบญมาศบานในม่านหมอกวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เทศกาลดนตรีคอนเสิร์ตนั่งเล่น เฟสติวัล เขาใหญ่ ซึ่งจะตอบสนองความต้องการท่องเที่ยวของกลุ่มคู่รักวัยรุ่นและวัยทำงานในช่วงเทศกาลแห่งความรักได้เป็นอย่างดี
ด้านภาคตะวันออกและภาคกลาง คาดว่าจะเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในช่วงวันหยุดยาวนี้เช่นกัน จากการเป็นแหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้ และมีแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มครอบครัวจะเดินทางไปไหว้พระ เวียนเทียน และร่วมทำกิจกรรมในวันสำคัญทางศาสนา โดยหลายพื้นที่ได้จัดกิจกรรมทางศาสนาเพื่อรองรับกลุ่มดังกล่าว เช่น กิจกรรมไหว้พระทางน้ำ 9 วัด จ.นนทบุรี งานมาฆบูชาพุทธมณฑล จ.นครปฐม งานบุญข้าวยาคู ชุมชนมอญวัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจบุรี ทั้งนี้ คาดว่าจะอัตราพักแรมเฉลี่ยในพื้นที่ดังกล่าวมากกว่า 70%
สำหรับกิจกรรมเด่น ททท. สนับสนุนการเดินทางช่วงวันหยุดยาว เช่น “ท้าคนแกร่งเที่ยวข้ามภาค พิชิตบุรีรัมย์ มาราธอน 2017 จ.บุรีรัมย์” ในวันที่ 12 ก.พ. จะมีนักวิ่งจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 20,000 คน และมีอัตราการพักแรมในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 92% อีกทั้งมีงาน “วิวาห์ใต้สมุทร 2017 จ.ตรัง” ระหว่างวันที่ 13-15 ก.พ. คู่แต่งงานเข้าร่วมงาน 20 คู่ ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ คาดอัตราการพักแรมในพื้นที่สูงถึง 70% รวมทั้งมีงาน “งานมาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ จ.นครศรีธรรมราช” วันที่ 7-11 ก.พ. คาดว่าจะมีนักท่องเทียวชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่ประมาณ 30,000 คน เป็นต้น
