เอสซีจี ทุ่มงบลงทุน 6 หมื่นล้าน ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 5% ส่วนปีที่แล้วกำไร ลดลง 19% จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกทั้งสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ราคาน้ำมันดิบผันผวน และการแข็งค่าของเงินบาท

เอสซีจี ทุ่มงบลงทุน 6 หมื่นล้าน – นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี เปิดเผยว่า ปี 2562 บริษัทมีแผนลงทุน 6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 4.6 หมื่นล้านบาท มีกระแสเงินสด 5.7 หมื่นล้านบาท มีหุ้นกู้ครบกำหนดออกทดแทน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในต่างประเทศในโครงการที่มีศักยภาพและคุ้มค่าการลงทุน รวมถึงการลงทุนในส่วนของสตาร์ตอัพชั้นนำที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิตอลประมาณ 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ที่ 10-15% และเน้นการลงทุนด้านการวิจัยพัฒนาให้มากขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 4,700 ล้านบาท รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อลดต้นทุน ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2562 เติบโต 5%

ทั้งนี้ จากผลประกอบการปี 2561 มีรายได้จากการขาย 478,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6% โดยมีกำไร 44,748 ล้านบาท ลดลง 19% เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกทั้งสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ผันผวน และการแข็งค่าของเงินบาทส่งผลกระทบต่อภาพรวมผลประกอบการของเอสซีจี

“โดยคาดปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศปีนี้น่าจะเติบโตได้ 3-5% จากปีก่อนโต 3% โดยประเมินความต้องการใช้ปูนจะขยายตัวในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ต่อเนื่องจากครึ่งหลังของปีที่ผ่านมาสามารถเติบโตได้ดี ซึ่งต้องติดตามแนวโน้มการลงทุนครึ่งหลังของปีนี้อีกครั้งว่าจะมีทิศทางอย่างไร ส่วนการเมืองในประเทศจะมีผลต่อธุรกิจมากน้อยแค่ไหนนั้น ยังเร็วเกินไปที่จะประเมิน ต้องรอผลเลือกตั้งให้มีความชัดเจนอีกครั้ง”

สำหรับปี 2562 เอสซีจียังคงเน้น 2 กลยุทธ์หลัก คือ การสร้างเสถียรภาพทางการเงินเพื่อรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของเอสซีจีในปีที่ผ่านมาโต 9% ซึ่งถือว่าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับผลประกอบการของอุตสาหกรรมในภาพรวม

กลยุทธ์ที่สอง คือการบริหารจัดการการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว โดยเน้นการพัฒนานวัตกรรมโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เช่น การให้บริการโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำสำหรับผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ การขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยการออกแบบบรรรจุภัณฑ์รวมกับลูกค้า การให้บริการสำรวจความเสียหายโครงสร้างอาคารด้วยอุปกรณ์ทางวิศวกรรมที่แม่นยำ เป็นต้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมและสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว เอสซีจีจะเดินหน้าขยายโอกาสส่งออกนวัตกรรมสินค้าและบริการตามทิศทางตลาดโลกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเร่งเดินหน้าโครงการลงทุนที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้ในอนาคตทั้งตลาดอาเซียนที่ขยายตัวต่อเนื่องรวมถึงตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและเติบโตรวดเร็ว เช่น การส่งออกสินค้าเคมีภัณฑ์ไปยังตลาดจีน และการรุกธุรกิจค้าปลีกและโลจิสติกส์ในภูมิภาคต่างๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน