“ประยุทธ์” จี้ลดต้นทุนปุ๋ยใน 2 เดือน สหกรณ์รับหนุนทำปุ๋ยสั่งตัด หวังลดต้นทุนปลูกข้าว 400 บาท/ไร่

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการหาวีธีลดต้นทุนด้านปัจจัยการผลิต ให้ได้ในระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งปัจจัยการผลิต อาทิ ปุ๋ย มีสัดส่วนประมาณ 30% ของต้นทุนด้านการทำการเกษตร นโยบายการลดต้นทุนปุ๋ย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ที่ขณะนี้ ราคาผลผลิตตกต่ำ แต่ต้นทุนการผลิตยังสูงอยู่

“นอกจากการลดต้นทุนการผลิต รัฐบาลยังต้องเดินหน้าปฏิรูปภาคเกษตร และต้องทำควบคู่กับการดูแลเรื่องของค่าครองชีพ เพราะเกษตรกรไทยยังเชื่อว่า ราคาสินค้าเกษตรต้องได้ราคาสูง อย่างที่นักการเมืองบอกว่า ถ้าปลูกข้าวต้องได้ 15,000-20,000 บาท/ตัน ยางพาราต้องได้ราคาสูงกว่าราคาที่ควรจะเป็น แต่ไม่มีการพูดถึงการลงทุนเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ รัฐบาลต้องเปลี่ยนแปลงภาคเกษตรกรให้ได้ โดยต้องอาศัยเกษตรกรรุ่นใหม่ มีการนำเทคโนโลยีมาลดต้นทุน การปฏิรูปภาคเกษตร ต้องใช้เวลา แต่รัฐบาลต้องทำต่อเนื่อง”

ด้านนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ มีโครงการสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรผลิตปุ๋ยใช้เอง จำหน่ายให้กับสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร เนื่องจากปัจจุบัน เกษตรกรส่วนใหญ่ ประสบกับปัญหาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น และใช้ปุ๋ยไม่เหมาะสมกับสภาพพื้นดิน ซึ่งส่งผลทำให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่ามาตรฐาน รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนการผลิต โดยให้สหกรณ์การเกษตรในระดับอำเภอ ผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพและจำหน่ายในราคาที่เป็นธรรมแก่เกษตรกร

กรมพัฒนาที่ดินจะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลดินของแต่ละพื้นที่ เพื่อกำหนดสูตรปุ๋ยที่มีแร่ธาตุเหมาะสมกับสภาพดินให้สหกรณ์นำไปผลิต กรมส่งเสริมการเกษตรจะจัดเวทีให้ความรู้แก่เกษตรกรถึงข้อดี ในการผลิตปุ๋ยใช้เองแทนปุ๋ยสำเร็จรูป และกรมวิชาการเกษตรจะออกใบอนุญาตผลิตและจำหน่ายปุ๋ยให้กับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงการให้คำแนะนำ ตามหลักวิชาการการผสมปุ๋ย และมอบใบรับรองปุ๋ยที่สหกรณ์ผลิตขึ้นว่า มีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกร ที่จะเลือกซื้อไปใช้

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะเจรจากับผู้ประกอบการนำเข้าแม่ปุ๋ย เพื่อให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย ได้ซื้อแม่ปุ๋ยจากบริษัทนำเข้าในราคาที่ถูกกว่าราคาตลาด และกระจายต่อให้กับสหกรณ์การเกษตรในแต่ละจังหวัด นำแม่ปุ๋ยซึ่งเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารหลักพืช คือ N P K สูตรเข้มข้น เป็นวัตถุดิบเพื่อนำไปผสมและผลิตปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน หรือสูตรที่เกษตรกรต้องการใช้ จำหน่ายให้กับเกษตรกร

สำหรับเงินทุนในการผลิตปุ๋ยจำหน่ายให้เกษตรกร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จัดสรรวงเงินสินเชื่อ 1,300 ล้านบาท ให้สหกรณ์กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2 โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 2 และธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ย 1% ต่อปี

“เดือน เม.ย.จะเข้าฤดูทำนา ชาวนาจะสามารถใช้ปุ๋ยผสมเองได้ โดยกรมฯ ได้เปิดรับสมัครสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ที่สนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว 403 แห่งในพื้นที่ 66 จังหวัด และได้ประสานสหกรณ์ เพื่อสำรวจปริมาณความต้องการปุ๋ยผสมใช้เองของสมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่ สหกรณ์จะได้มีข้อมูลในการผลิตปุ๋ย ได้ตรงกับความต้องการของเกษตรกร คาดว่า สหกรณ์จะเริ่มผลิตปุ๋ยและจำหน่ายได้ตั้งแต่เดือน มี.ค.นี้ ประมาณ 100,000 ตัน ซึ่งจะจำหน่ายราคาถูกกว่าปุ๋ยสำเร็จที่ขายตามท้องตลาดตันละ 3,378 บาท คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการผลิตไร่ละ 300-400 บาท และสามารถลดต้นทุนจากการใช้ปุ๋ย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 337.8 ล้านบาท”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน