นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาซอฟท์แวร์ แอพพลิเคชั่น และลงทุนในบริษัท Start-up เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับ Satang Pro ผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (ดิจิทัล เอ็กซ์เชนจ์) ที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการนำ JFIN Coin ซึ่งเป็นโทเค็นประเภทหลักทรัพย์ เข้าทำการซื้อขายในตลาด Satang Pro อย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ก.พ. 2562 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ Satang Pro หรือ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เว็บไซต์ satang.pro (เดิมคือ TDAX.com) โดยให้ความสำคัญต่อเรื่องความปลอดภัยของระบบ ซึ่งระบบหลังบ้านของที่นี่ใช้มาตรฐานสากลคือ Multisig ที่เน้นเรื่องความปลอดภัยในระดับสูง และยังได้ยื่นขอมาตรฐาน ISO 27001 ระบบสารสนเทศโลกด้านการดูแลความปลอดภัย ระบบซื้อขาย และเก็บสินทรัพย์ ดิจิทัลของลูกค้า เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจในความปลอดภัย และโปร่งใสของแพลตฟอร์ม Satang Pro อีกทั้งยังมีฝ่าย บริการลูกค้า พร้อมบริการและแก้ปัญหาให้ลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับแผนการพัฒนาระบบสินเชื่อแบบดิจิทัลที่ไม่มีตัวกลาง หรือดีดีแอลพี (Decentralized Digital Lending Platform) สามารถเดินตามแผนที่วางไว้ ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดให้ผู้ถือ JFIN Coin มาใช้ในการซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์ในราคาพิเศษ ในเครือเจมาร์ท พร้อมกับสามารถแลกซื้อกาแฟที่ร้าน คาซ่า ลาแปง เฉพาะสาขาราชเทวี และล่าสุดเพื่อให้ JFIN Coin เกิดความต้องการใช้มากขึ้น ล่าสุด ในวันที่ 7 ก.พ. นี้ บริษัทเตรียมจัดให้มีการประมูล SSR เฌอปราง BNK และโปสเตอร์พร้อมลายเซ็น เกิร์ล กรุ๊ป วงสยามดรีม โดยใช้ JFIN Coin ซึ่งขณะนี้อยู่นะหว่างขออนุญาตให้มีการจัดการประมูลจาก กรมการปกครอง โดยงานประมูลจะมีขึ้นในงาน โมบาย เอ็กซ์โปร ไบเทคบางนา
“เป็นครั้งแรกของประเทศไทยในการนำเหรียญคริปโตเคอเรนซี่มาใช้ในวงการประมูล”
รวมถึง แพลตฟอร์ม “ป๋า” สินเชื่อออนไลน์แบบ Digital Lending Platform (DLP) เตรียมปรับโฉมใหม่และจะมีพันธมิตรผู้ให้บริการและเจ้าของสินค้าเข้าร่วมให้บริการเพิ่มมากขึ้น อาทิ อี-คอมเมิร์ซ กลุ่มการศึกษา และสถาบันความงาม เป็นต้น ซึ่งบริษัทวางแผนเปิดตัวในเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนไทยกว่า 30 ล้านคน ที่ไม่สามารถกู้เงินในระบบธนาคารพาณิชย์ สามารถเข้าถึงเงินกู้ได้ง่ายขึ้น หลังจากเมื่อปีที่แล้วบริษัทได้เปิดตัว ป๋า แพลตฟอร์มสินเชื่อออนไลน์เป็นครั้งแรกโดยบริษัทได้ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 10 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะขยายเป็น 100 ล้านบาท และผลประกอบการบริษัทจะเริ่มเป็นบวก
