คลังนั่งไม่ติดบาทแข็งโป๊ก สั่ง ธปท. แจงผลกระทบ ผวา! จีดีพีไม่เข้าเป้า-ส่งออกเดี้ยง ชี้แข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่งมาก
คลังนั่งไม่ติดบาทแข็งโป๊ก – รายงานข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2562 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้ประชุมผู้บริหารระดับสูงของคลัง เพื่อติดตามผลงานและมอบหมายนโยบายและงานที่ต้องดำเนินการต่อไป สนับสนุบเศรษฐกิจในช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้งก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ชะลอตัวมากและยังขยายตัวได้ 4% ตามที่กระทรวงการคลังประมาณการไว้
นอกจากนี้ รมว.คลัง ยังได้สั่งให้ผู้บริหารสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะที่เป็นกรรมการและตัวแทนในธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องทำหน้าที่ชี้แจงถึงผลกระทบค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ว่ากระทบเศรษฐกิจอย่างไร และควรดำเนินการอย่างเพื่อให้เกิดผลดีกับเศรษฐกิจมากที่สุด
“รมว.คลัง ได้สั่งกับผู้บริหาร สศค. ว่าเรื่องค่าเงินบาทเป็นหน้าที่ของ ธปท. ก็จริง แต่ สศค. ในฐานะกรรมการของ ธปท. ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของ ธปท. ต้องหน้าที่ชี้ให้ ธปท. เห็นว่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมากกว่าประเทศคู่แข่ง กระทบกับการส่งออกและเศรษฐกิจไทย ควรดูแลอย่างรวดเร็วและทันสถานการณ์ ถึงแม้ว่า ธปท. ไม่เชื่อสิ่งที่บอก สศค. ก็ต้องทำหน้าที่”รายงานข่าวกล่าว
รายงานข่าว กล่าวว่า ตอนนี้กระทรวงการคลังใช้นโยบายการคลังในการทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้สูงต่อเนื่อง มีการเร่งการลงทุนขนาดใหญ่ และการอัดฉีดเงินให้กับผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการส่งออกในปีนี้คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจากสงครามการค้า หากค่าเงินบาทของไทยยังแข็งค่ามากกว่าคู่แข่ง จะทำให้กระทบกับการส่งออกของไทยเพิ่มมากขึ้น และทำให้การขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวได้ไม่ถึง 4%
สัปดาห์ที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ไปมอบนโยบายให้ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ โดยมีการตั้งเป้าการส่งออกปีนี้ขยายตัว 8% จากปีที่ผ่านมาขยายตัวได้ 6.7% โดยสำนักงานวิจัยทางเศรษฐกิจภาคเอกชนเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การส่งออกของไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 3-4% เท่านั้น
