แบงก์ไทยพาณิชย์รับกังวลและหนักใจเศรษฐกิจไทยปีนี้เจอศึกนอก-ใน

แบงก์ไทยพาณิชย์รับกังวลและหนักใจเศรษฐกิจไทยปีนี้เจอทั้งศึกนอก-ใน พร้อมจับมือกูเกิลชวนร้านค้าเอสเอ็มอีปักหมุดปั๊มยอดขาย

เศรษฐกิจปีนี้เจอศึกนอก-ใน – นายอารักษ์ สุธีวงศ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2562 เมื่อเทียบกับปี 2561 ธนาคารมีความกังวลและหนักใจในระดับหนึ่ง เพราะทั้งเศรษฐกิจในระดับโลกที่ยังไม่คลี่คลายเรื่องสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ซึ่งส่งผลกระทบเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงไทย ที่พึ่งพิงรายได้จากการส่งออกเป็นหลัก ทำให้ได้รับผลกระทบจากยอดส่งออกลดลง รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่า ก็กระทบต่อผู้ประกอบการส่งออก ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรยังไม่ฟื้นตัว การท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ขณะนี้ยังไม่ฟื้นตัวเช่นกัน รวมถึงความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้ง ซึ่งทั้งหมดมีผลให้สภาพเศรษฐกิจไทยค่อนข้างเปราะบางเมื่อเทียบปีที่ผ่านมา

โดยธนาคารก็มีการเฝ้ามองเรื่องคุณภาพหนี้ ของลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะลูกค้าสินเชื่อในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กหรือเอสเอ็มอี ซึ่งมีความอ่อนไหวกว่ากลุ่มอื่น

ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อเอสเอ็มอีโดยภาพรวมในปีนี้ยังขยายตัวได้แต่ช้ากว่าในปีที่ผ่านมา โดยที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ตั้งเป้าการเติบไว้ที่ระดับ 5-7% จาก 3 แสนล้านบาทในปีที่แล้ว โดยจะเน้นขยายฐานสินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย หรือเอสเอสเอ็มอี ที่มียอดขายปีละ 5-10 ล้านบาท สำหรับภาพรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลของธนาคารอยู่ที่ 2.8% จากหนี้คงค้างทั้งระบบของธนาคารซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อเอสเอ็มอีอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท และมีเอ็นพีแอลอยู่ที่เกือบ 8% โดยที่ปีนี้พยามจะรักษาระดับเอ็นพีแอลใกล้เคียงเดิม

ขณะเดียวกันล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์ และ กูเกิล (Google) มีมุมมองสอดคล้องกัน ที่จะผลักดันเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตต่อเนื่อง และปรับตัวให้ทันต่อภาวะของการเปลี่ยนแปลงในอนาคต อีกทั้งมองเห็นว่าผู้ประกอบการไทยยังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีไม่มากเท่าที่ควร โดยดูจากสัดส่วนของเอสเอ็มอีไทยที่ปัจจุบันมีเว็บไซต์มีเพียง 13% ซึ่งค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปใช้ช่องทางดิจิทัลในสัดส่วนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มองเห็นโอกาสในการร่วมมือกันเพื่อสร้าง “Digital Commerce Ecosystem” ให้เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เพื่ออํานวยความสะดวกให้ลูกค้าเอสเอ็มอีปักหมุดร้านค้าบน Google My Business เสริมศักยภาพของเอสเอ็มอีไทยในทุกมิติ ในการทำธุรกิจในยุคดิจิทัลให้กับเอสเอ็มอี เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าและยอดขายให้แก่ร้านค้าได้ โดย Google My Business เป็นบริการฟรีที่จะช่วยให้ร้านค้าของเอสเอ็มอี ขึ้นมาอยู่บน Google Search และ Maps สามารถใส่ข้อมูลธุรกิจ เวลาเปิดปิด โพสต์สินค้า และสามารถใช้ Google Maps นำทางไปถึงสถานที่ตั้งร้านค้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้ลูกค้าค้นหาร้านได้ง่ายขึ้น

สำหรับร้านค้าหรือธุรกิจที่สนใจปักหมุดร้านบน Google My Business เพื่อให้ลูกค้าค้นหาร้านเจอได้ง่ายๆ เพียงมีบัญชีเงินฝากกับธนาคารไทยพาณิชย์ สามารถนำบัตรประชาชนและเอกสารยืนยันที่อยู่ธุรกิจไปติดต่อขอรับบริการปักหมุดร้านได้ที่เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ธุรกิจ เอสเอ็มอี หรือเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขากว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ หรือคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://scbsme.scb.co.th นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังสามารถสมัครระบบ QR CODE เครื่องรูดบัตร edc และโซลูชั่นต่างๆ อีกมากมาย เพื่อเพิ่มโอกาสและต่อยอดธุรกิจให้ค้าขายได้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี ธนาคารเปิดตัวบริการดังกล่าวมา 2 เดือน ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมปักหมุดแล้ว 100,000 ราย และตั้งเป้าภายใน 1-2 ปี จะมีลูกค้าปักหมุดเกินกว่า 1 ล้านราย ซึ่งข้อดีของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมบริการดังกล่าวนอกจากจะช่วยเพิ่มยอดขายแล้ว ข้อมูลการค้นหาร้านของลูกค้าซึ่งทางกูเกิล จะเก็บไปวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาค้นข้อมูลได้ว่ากลุ่มลูกค้าเป็นใคร ใช้คำค้นหาอะไร และเวลาใดที่ค้นหาทำให้ร้านค้าเอสเอ็มอีได้ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น เพื่อนำข้อมูลไปต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้ในอนาคต

นายอารักษ์ กล่าวถึงภาพรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ของธนาคารอยู่ที่ 2.8% จากหนี้คงค้างทั้งระบบของธนาคารซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อเอสเอ็มอีอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท และมีเอ็นพีแอลอยู่ที่เกือบ 8% โดยที่ปีนี้พยามจะรักษาระดับเอ็นพีแอลใกล้เคียงเดิม