พาณิชย์ลุยแก้กฎหมาย ห้ามนำเข้ารถมือสอง ป้องปัญหามลพิษ ชี้ส่วนใหญ่เป็นรถหรู-หนีภาษี

พาณิชย์ลุยแก้กฎหมาย ห้ามนำเข้ารถยนต์มือสองส่วนบุคคล ป้องปัญหามลพิษ ชี้ส่วนใหญ่เป็นรถหรู-หนีภาษี

ห้ามนำเข้ารถหรูมือสอง – น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการปรับปรุงประกาศ และระเบียบกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการนำเข้ารถยนต์ที่ใช้แล้ว (รถยนต์มือสอง) ก่อนที่จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อป้องกันปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม, การสร้างความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน, การแก้ไขปัญหาการหลบเลี่ยงมาตรการควบคุมเพื่อมาจำหน่ายในประเทศ รวมถึงการสวมสิทธิ์ใช้ชื่อผู้อื่นนำเข้าแทน การปลอมแปลงเอกสาร และที่สำคัญเป็นการบริหารงานที่สอดคล้องกับมติครม.ที่กำหนดให้การแก้ไขปัญหามลภาวะด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ

“ปัจจุบันรถยนต์นำเข้ามือสองที่อยู่ภายใต้การควบคุมนำเข้าของกระรวงพาณิชย์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2496 จำนวน 9 ประเภท โดยระเบียบที่ปรับปรุงแก้ไขใหม่นั้นคาดว่าจะเสนอครม. ให้พิจารณาได้ในเร็วๆ นี้ เบื้องต้นจะห้ามนำเข้ารถยนต์ที่ใช้แล้วเพื่อใช้เฉพาะตัว โดยทราบว่าส่วนใหญ่เป็นรถหรู ส่วนรถยนต์มือสองนำเข้าประเภทอื่นๆ ก็จะโอนหน้าที่ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณานำเข้า”

สำหรับรถยนต์ที่ใช้แล้วเป็นสินค้าที่อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการนำเข้าของกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่ พ.ศ. 2496 ครอบคลุมรถยนต์ที่ใช้แล้ว 9 ประเภท ตามพิกัดอัตราศุลกากรประเภทที่ 87.01 87.02 87.03 87.04 และ 87.05 ต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ประกอบด้วย รถยนต์นั่งที่ใช้แล้วเพื่อใช้เฉพาะตัว, รถลักษณะพิเศษที่ใช้แล้วเพื่อใช้ในกิจการของตน, รถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดที่ได้รับการยกเว้นหรือชดเชยภาษี

นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดโดยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์การสาธารณกุศล, รถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดเป็นการชั่วคราว, รถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดเพื่อเป็นต้นแบบในการผลิตหรือการศึกษาวิจัย, รถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดเพื่อปรับสภาพแล้วส่งออก, รถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดเพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์และ รถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดโดยใช้ประโยชน์สุทธินำกลับ

นายกีรติ รัชโนรอง รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่ารถยนต์นำเข้ามือสอง ประเภทรถยนต์นั่งที่ใช้แล้วเพื่อใช้เฉพาะตัวนั้นพบว่า 95% เป็นรถหรู ที่เหลือเป็นรถยนต์บ้านทั่วไป ซึ่งในแต่ละปีมีการนำเข้าผ่านช่องทางของกรม 100 กว่าคัน อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีการลักลอบการนำเข้าที่ไม่ผ่านช่องทางของกรมฯ หรือการถอดอะไหล่มาประกอบปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 คัน ซึ่งส่วนใหญ่ผิดกฎหมาย และจะเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ยาเสพติด เห็นได้จากในแต่ละเดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งหนังสือมากรมฯ ไม่ต่ำกว่า 100 ฉบับต่อเดือน เข้าให้ปากคำเกี่ยวกับประเด็นกฎหมายการนำเข้ากับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งทั้งหมดกลับไม่ใช่รถยนต์มือสองที่นำเข้าผ่านกรมฯ

“ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา กระทรวงพาณิชย์ได้จัดประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องจำนวน 15 ครั้ง เพื่อพิจารณาทบทวนมาตรการควบคุมการนำเข้ารถยนต์ที่ใช้แล้ว โดยที่ประชุมมีมติห้ามนำเข้ารถยนต์นั่งที่ใช้แล้วเพื่อใช้เฉพาะตัว ส่วนรถยนต์ประเภทอื่นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแล อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการนำเข้ารถมือสองอย่างรถเครน และรถยนต์ที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์การสาธารณกุศลได้รับบริจาค เช่น รถพยาบาลและรถดับเพลิง นั้นกรมฯ ยังเป็นผู้อนุญาตเหมือนเดิม ขณะที่รถยนต์นำเข้ามือสองอย่างรถใช้สำหรับทูตต่างประเทศหรือองค์กรต่างประเทศนั้นจะเป็นหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศเป็นผู้พิจารณา เป็นต้น”