นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด เปิดเผยผลการดำเนินงานในปี 2559 ที่ผ่านมาว่าบริษัททำรายได้ในปี 2559 อยู่ที่ 144,705 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3% จากปี 2558 และมีกำไรสุทธิที่ประมาณ 4,700 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนหน้า 15% รวมถึงบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในการค้าน้ำมันเป็นอันดับ 2 เพิ่มขึ้น 0.1% จากปีก่อนเป็น 15.1% ซึ่งถือว่าเป็นรายเดียวในประเทศที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น ส่งผลจากการที่บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจนอน-ออยล์ โดยเฉพาะ‘สพาร์’ที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตแบรนด์ชั้นนำจากเนเธอร์แลนด์ ทำให้ยอดขายในส่วนค้าปลีก เติบโตขึ้น 12.4%
ขณะที่บริษัท ตั้งเป้าเงินลงทุนไว้ที่ 18,500 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจในปี 2560 แบ่งเป็น งบซ่อมบำรุง 5,000 ล้านบาท งบลงทุนในโครงการต่างๆ 5,000 ล้านบาท งบดำเนินงานธุรกิจไบโอฟูเอล 3,000 ล้านบาท งบดำเนินลงทุนด้านทรัพยากรอื่นๆ เช่น ลิเทียม 4,000 ล้านบาท งบการตลาด เช่นการขยายปั๊ม และธุรกิจนอน-ออยล์ 1,000 ล้านบาท และงบวิจัยและพัฒนาด้านนวัตกรรมอีก 500 ล้านบาท
ในส่วนของธุรกิจโรงกลั่นจะขยายกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 111,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากปีนี้ไม่มีแผนหยุดซ้อมบำรุงโรงกลั่น โดยคาดว่าจะมีค่าการกลัานอยู่ในระดับ 6-7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ผลิตได้ 101,390 บาร์เรลต่อวัน และมีค่าการกลั่นอยู่ระดับ 5.99 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากมีการหยุดซ้อมบำรุงโรงกลั่นประจำปี 45 วัน แต่ยังถือว่ามากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 96,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากมีระบบการจัดการที่ดี ทำให้คงอัตราการผลิตได้ในระดับสูง
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานร่วม (โค-เจนเนอเรชั่น) เพิ่มอีก 1 แห่งจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 2 ที่ซื้อมาจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แห่งเพื่อใช้ลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำที่เป็นเชื้อเพลิงในธุรกิจได้ประมาณ 20% และคาดว่าจะดำเนินการได้ช่วงเดือนเม.ย. 2560 ส่วนธุรกิจไบโอฟูเอลและธุรกิจไบโอดีเซลคาดว่าจะจำหน่ายเพิ่มขึ้น 20% หากภาครัฐยังคงสัดส่วนการผสมผลิตภัณฑ์ B100 ในน้ำมันดีเซลที่ 5% ในส่วนของเอทานอลจะมีการใช้กำลังผลิตเฉลี่ยที่ 130,000 ลิตรต่อวัน สำหรับธุรกิจไบโอฟูเอล จะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างเพื่อรองรับนโยบายด้านอุตสาหกรรมชีวภาพตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล
สำหรับงบดำเนินงาน 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายสถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม) ตั้งเป้าจะเพิ่มอีก 100 แห่งภายในปี 2560 เส้นทางกรุงเทพและปริมณฑล และหัวเมืองหลักโดยเปิดให้บริการแบบคลัสเตอร์ อาทิเส้นทางหลักสายตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพ-นครราชสีมา นครราชสีมา-ขอนแก่น ขอนแก่น-อุดรธานี และเส้นทางสายภาคตะวันออก ชลบุรี-ระยอง เป็นต้น โดยตั้งเป้าจะจำหน่ายน้ำมันให้ได้ 530 ล้านลิตรต่อเดือน ขณะเดียวกันจะมีการขยายสพาร์ในปั๊มอีก 55 สาขา รวมถึงร้านเครื่องดื่มอินทนิล อีก 120 สาขา ซึ่งบริษัทมีนโยบายนำสินค้าของชุมชนเข้ามาจำหน่ายด้วย
