นายวรภาส มหัทธโนบล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายครีมเทียม แบรนด์ คอฟฟี่ ดรีมมี่ เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯ ปรับโฉม ครีมเทียม แบรนด์ คอฟฟี่ ดรีมมี่ ใหม่ เพื่อเดินหน้ารุกตลาดครีมเทียมเต็มตัว หลังจากศึกษาและพบว่าตลาดครีมเทียม ซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 6,000 ล้านบาท มีการเติบโต 5-6% เป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก จากการที่ผู้บริโภคดื่มกาแฟและชาเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการขยายตัวของธุรกิจร้านกาแฟและชานมไข่มุกที่เพิ่มมากขึ้น จึงมองเห็นเป็นโอกาสและช่องว่างในการรุกเข้าไปทำตลาดเพิ่มขึ้นในอนาคต
“ครีมเทียม คอฟฟี่ ดรีมมี่ เริ่มวางจำหน่ายเมื่อ 9 ปีก่อน โดยเป็นผู้บุกเบิกครีมเทียมขนาด 1,000 กรัม ในราคาที่คุ้มค่า พร้อมกระจายสินค้าครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านช่องทางจำหน่ายในร้านค้าดั้งเดิม อย่าง ร้านยี่ปั๊ว ซาปั๊ว รวมถึงร้านค้าอุปกรณ์ชา กาแฟ จึงได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะในผู้ประกอบการร้านกาแฟ และชา รวมถึงเบเกอรี่ และขนมหวานต่างๆ จนถึงปัจจุบันประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถครองส่วนแบ่งในตลาดร้านค้าดั้งเดิมเป็นอันดับต้นๆ ถือเป็นความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์ ป่าล้อมเมือง ซึ่งกระแสตอบรับดังกล่าวทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจรีแบรนดิ้งคอฟฟี่ ดรีมมี่ใหม่ เริ่มจากการพัฒนาสูตรปรับ เพื่อเพิ่มความเข้มข้น มันกลมกล่อมให้กับเครื่องดื่ม และภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่”
น.ส.ภาพร มหัทธโนบล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ครีมเทียมคอฟฟี่ ดรีมมี่โฉมใหม่ จะเน้นรูปลักษณ์ที่ทันสมัย สดใส เหมาะกับทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมกันนี้ยังได้ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ มีให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ ขนาด 400 กรัม ขนาด 1,000 กรัม และแบบสติ๊ก 3 กรัม จะวางจำหน่ายในไตรมาส 2 นี้ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้บริโภคทั่วไป ร้านกาแฟ ร้านชา รวมถึงร้านเบเกอรี่ ตลอดจนขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ไปยังร้านค้าสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) ซึ่งจะช่วยทำให้ครีมเทียมคอฟฟี่ ดรีมมี่ได้กลุ่มผู้บริโภคใหม่เพิ่มมากขึ้น และทำให้ผู้บริโภคเดิมหาซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น
สำหรับการทำตลาด บริษัทฯ เตรียมใช้งบการตลาด 50-80 ล้านบาท ในการสร้างการรับรู้คอฟฟี่ ดรีมมี่ โฉมใหม่ ต่อกลุ่มเป้าหมายทั้งตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ผู้บริโภคทั่วไป ร้านชา กาแฟ และเบเกอรี่ ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง บริษัทฯ จึงเลือก เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ พระเอกดัง มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรก โดยตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 20% และมีส่วนแบ่งตลาดในตลาดครีมเทียม 3-5% ในช่องทางจำหน่ายโมเดิร์นเทรด
