ครม.ไฟเขียว 764 ล้าน ซื้อเรือคืนหลังประมงเจอพิษแก้ไอยูยู-นายกฯกังวลซื้อคืนแต่มีเรือเวียนเทียนเข้าระบบ
ครม.ไฟเขียว 764 ล้าน ซื้อเรือคืน – นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน ระยะที่ 1 (ระยะเร่งด่วน) การชดเชยเยียวยาเจ้าของเรือที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ปี 2558 วงเงินชดเชย 764.454 ล้านบาท เพื่อชดเชยเรือประมงจำนวน 305 ลำ โดยแบ่งเป็น 2 รอบ รอบแรกจะซื้อเรือคืนจำนวน 252 ลำ กรอบวงเงิน 469.604 ล้านบาท ใช้งบรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ส่วนรอบที่ 2 จำนวนเรือ 53 ลำ ใช้งบประมาณ 294.850 ล้านบาท โดยบรรจุไว้ในคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 สำหรับเงื่อนไขการจ่ายเงินจะแบ่งการจ่ายเงินออกเป็น 2 งวด ดังนี้ งวดที่ 1 จำนวน 30% ของจำนวนเงินค่าชดเชย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแยกชิ้นส่วนหรือทำลายเรือประมง หลังจากรับ 30% แรกแล้ว จะต้องมีแผนกในการทำลายเรือ และทำลายเรือเสร็จหรือดำเนินการแยกชิ้นส่วนหรือทำลายเรือประมงเรียบร้อยแล้วจึงจะมารับงวด 2 จำนวน 70% ของจำนวนเงินค่าชดเชย
ทั้งนี้ เจ้าของเรือและเรือประมง รวม 305 ลำ ที่เป็นกลุ่มเรือที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในการแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฏหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม (ไอยูยู) และไม่สามารถออกทำการประมง และให้ความร่วมมือกับภาครัฐ โดยไม่ขอใบอนุญาตทำการประมงเป็นเหตุให้มีสัตว์น้ำเพื่อใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากร และจัดอยู่ในกลุ่มที่ไม่พบการกระทำความผิด หลังจากรับค่าชดเชยที่รัฐบาลเยียวยาให้ในอัตรา 50% ของราคาเรือ ผู้ขอค่าชดเชยจะไม่ไปประกอบอาชีพประมงหรืออื่นๆ ที่ผิดกฎหมายต่อไป
ด้านพล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมครม. นายกรัฐมนตรี ห่วงวิธีการซื้อเรือ และการทำลายเรือ กังวลว่าเมื่อรัฐบาลเสียงบประมาณในการซื้อเรือคืนแล้ว หรือในขั้นตอนการทำลายเรือจะมีการดูแลในรัดกุมหรือไม่ จึงกำชับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลอย่าให้การรับเงินของรัฐไปแล้วไม่มีการทำลายเรือ แต่มีการนำเรือกลับเข้ามาระบบอีก และหากมีการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการรับซื้อเรือคืนมีบทลงโทษหรือไม่ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขให้รัดกุม
