สำนักงานกกพ. อัดเงินอุ้มค่าไฟต่ออีก 4 เดือน บรรเทาค่าครองชีพประชาชน ในช่วงภาวะเศรษฐกิจมีความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนและราคาน้ำมัน
กกพ. อัดเงินอุ้มค่าไฟอีก 4 เดือน – น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ. มีมติให้คงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) สำหรับการเรียกเก็บเดือนพ.ค.-ส.ค. 2562 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.6396 บาทต่อหน่วย ไม่เปลี่ยนแปลงจากงวดก่อน เพื่อบรรเทาค่าครองชีพประชาชน ในช่วงภาวะเศรษฐกิจมีความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนและราคาน้ำมัน
โดย กกพ. จะนำเงินที่ได้จากการบริหารประสิทธิภาพการดำเนินงานของ 3 การไฟฟ้าโดยเฉพาะเงินลงทุนที่ไม่เป็นไปตามแผนปี 2561 ที่มี 4,576 ล้านบาท มาใช้บริหารจัดการเพื่อคงค่าเอฟทีไว้ให้ได้มากที่สุด ทำให้ค่าเอฟทีคงเดิมเพื่อไม่ให้กระทบประชาชนท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมัน และค่าเงินบาท ซึ่งแม้จะคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค. อยู่ที่ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่ากว่าเดือนม.ค.-เม.ย. 2562 หรือมีค่าเฉลี่ย 4 เดือนอยู่ที่ระดับ 32.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่การอ่อนค่าแบบผันผวนจะมีผลให้ต้นทุนสูงขึ้น
ทั้งนี้ หากไม่มีการคงค่าเอฟที ในช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค. 2562 จะทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.7136 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค. 2562 อยู่ที่ 67,090 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 7.39% จากช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. 2562 อยู่ที่ 4,615 ล้านหน่วย
ส่วนค่าเอฟทีงวดเดือนก.ย.-ธ.ค. 2562 ต้องติดตามค่าเชื้อเพลิงโดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติที่จะสะท้อนจากราคาน้ำมันย้อนหลัง 6-12 เดือน ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่าราคาน้ำมันมีความผันผวน ขณะที่ก๊าซธรรมชาติมีสัดส่วนการใช้เป็นเชื้อเพลิงหลักผลิตไฟฟ้า 55.36% รองลงมาเป็นรับซื้อไฟฟ้าจากลาว 17.58% ลิกไนต์ และถ่านหินนำเข้าอยู่ที่ 8.74% ขณะที่การปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่นั้นยังอยู่ระหว่างพิจารณาคาดจะแล้วเสร็จช่วงสิ้นปีนี้
น.ส.นฤภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในเดือนมี.ค.นี้ กกพ. จะชี้แจงรายละเอียดและเงื่อนไขการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย (โซลาร์ภาคประชาชน) ภายใต้แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย หรือพีดีพี 2018 (PDP) ฉบับใหม่ที่กำหนดรับซื้อไฟจากโซลาร์ภาคประชาชน 10,000 เมกกะวัตต์ โดยจะทยอยรับซื้อปีละ 100 เมกะวัตต์ในช่วง 10 ปีแรกเพื่อศึกษา หลังจากนั้นจะเปิดรับฟังความคิดเห็นและออกประกาศรับซื้อได้บนหลักการผลิตเองใช้เองเป็นหลัก ส่วนที่เหลือจึงจำหน่ายเข้าระบบอัตรารับซื้อเบื้องต้นจะอยู่ที่ 1.6-1.8 บาทต่อหน่วย
