สยามพิวรรธน์ ประกาศโรดแมปยิ่งใหญ่ 5 ปี ลงทุน 7 หมื่นล้าน มุ่งปักธงโครงการยักษ์ระดับระดับโลก ตอกย้ำไทยจุดหมายปลายทางของโลก แย้มคุย 2 ทำเลในกทม. เล็งไกลไปตปท. พร้อมขยายธุรกิจใหม่ โลจิสติกส์-ดิจิตอล ตั้งเป้ารายได้โตกว่าเท่าตัวแตะเกิน 5 หมื่นล้าน
สยามพิวรรธน์อัดงบลงทุน7หมื่นล. – นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่, สยามพารากอน และไอคอนสยาม เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแนวทางการดำเนินธุรกิจในช่วง 5 ปีจากนี้ (ปี 2562-2566) เตรียมงบลงทุนไว้กว่า 70,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ที่เป็นโครงการใหญ่บนที่ดิน 50 ไร่ขึ้นไป ให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งจากนี้จะเน้นสร้างโครงการใหญ่ที่เป็นจุดหมายปลายทางของโลก เพื่อดึงดูดคนไทย และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของโลกเหมือนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
โดยขณะนี้มี 2 โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ในกรุงเทพฯ และชานเมืองทั้งในโซนตะวันออก, เหนือ และใจกลางเมือง บนที่ดินขนาดเล็กสุดประมาณ 100 ไร่ คาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรร่วมทุนหลายราย เพราะเป็นโครงการใหญ่ที่จะต้องมีพันธมิตรร่วมทุนหลายฝ่าย โดยภายในโครงการจะประกอบไปด้วยหลายอย่างไม่ใช่แค่ ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าเท่านั้น แต่จะมีทั้งอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบที่อยู่อาศัย สวนสนุก ธีมพาร์ค แอกแทรกชั่นต่างๆ เหมือนการสร้างเมืองใหม่
“ตลอด 60 ปี สยามพิวรรธน์มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในการสร้างต้นแบบ และนำมาตรฐานใหม่ๆ มาพัฒนาวงการค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด เราสร้างปรากฎการณ์ปฏิวัติวงการให้เกิดขึ้น และจากทิศทางที่ได้ประกาศไปเมื่อ 5 ปีก่อน วันนี้เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสยามพิวรรธน์ได้สร้างมหาปรากฏการณ์ระดับโลกให้เกิดขึ้นจริง ตั้งแต่การเปลี่ยนสยามเซ็นเตอร์ การปรับโฉมสยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรียม ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางรูปแบบไฮบริดรีเทล และล่าสุดโครงการเมืองไอคอนสยาม ทำให้ใน 5 ปีจากนี้ยังย้ำจุดยืนผู้นำแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของวงการธุรกิจไทย ด้วยมุ่งพัฒนาโครงการใหญ่ที่แข่งขันบนเวทีโลก และดึงดูดคนทั่วโลก”
นางชฎาทิพ กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีนี้บริษัทยังมองการขยายไปต่างประเทศ ซึ่งได้ศึกษาจริงจังในประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา พร้อมกับหาพันธมิตรที่ร่วมกันพัฒนาโครงการ โดยจะมีทั้งเข้าไปลงทุน และเป็นที่ปรึกษาโครงการให้ นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายธุรกิจใหม่ๆ อย่าง โลจิสติกส์ และดิจิตอล หรือนวัตกรรม ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษา เพื่อลงทุนทำธุรกิจเองและพร้อมเข้าไปซื้อกิจการ คาดว่าในปี 2563 น่าจะได้ทั้ง 2 ธุรกิจ
ส่วนโครงการใหม่ในปีนี้มีเปิด 1 โครงการ คือ สยามพรีเมี่ยม เอาท์เล็ต เป็นค้าปลีกรูปแบบเอาท์เล็ต ที่ร่วมทุนกับกลุ่มไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค้าปลีกอันดับ 1 ของโลก บนพื้นที่ 150 ไร่ ในย่านสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมเปิดในเดือนธ.ค.นี้ อย่างไรก็ดี บริษัทตั้งเป้าหมายใน 5 ปีข้างหน้ารายได้จะเพิ่มขึ้น 1-1.5 เท่าตัว หรือมากกว่า 50,000 ล้านบาท จากปี 2561 มีรายได้ 25,500 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 23% และในปี 2562 ตั้งเป้าหมายมีรายได้เติบโตทั้งกลุ่มบริษัท 12-15% แต่เฉพาะไอคอนสยามตั้งเป้าหมายเติบโต 42%
