คมนาคมเชื่อโครงข่ายรถไฟฟ้ากทม. เสร็จคนย้ายเข้ากรุงแตะ 20 ล้านคน – ผู้ประกอบการอสังหาฯ หวังรัฐบาลใหม่ออกมาตรการกระตุ้นตลาด

คาดคนแห่ย้ายเข้ากรุงแตะ 20 ล้าน – นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 ซึ่งจัดโดย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และ สมาคมอาคารชุดไทย ว่า ภาครัฐ ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจอื่น ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ อีกทั้งรัฐบาลมีเป้าหมายในการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นประเทศผู้รายได้สูง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายความเจริญไปทั่วประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินการ ทำให้เกิดโครงการเมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ต ซิตี้ ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนของการพัฒนาประเทศในขณะนี้ โดยในปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้เปิดโครงการนำร่องเมืองอัจฉริยะ 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น กรุงเทพฯ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ส่วนในปีนี้ได้มีการกำหนดแผนงานขยายไปยัง 24 จังหวัด และคาดว่าภายในระยะเวลา 5 ปี จะขยายไปทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ภายใต้แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย ตั้งแต่ปี 2558-2565 กระทรวงคมนาคมยังมุ่งพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทุกโครงข่ายทั้งทางถนนทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ให้เชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในประเทศ รวมถึงการสร้างสถานีขนส่ง หรือจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางด้วยการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี ขนส่งมวลชน หรือ Transit Oriented Development (TOD) เพื่อกระจายความเจริญไปยังภูมิภาคตามแนวสายทางการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ซึ่งเอื้อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชยกรรม แหล่งงาน และแหล่งที่อยู่อาศัย

โดยเบื้องต้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้นำร่องการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ โดยเริ่มจากการนำแปลงที่ดิน A เนื้อที่ 32 ไร่ ห่างจากสถานีกลางบางซื่อ 500 เมตร และ แปลงที่ดิน E ประกาศเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมพัฒนาพื้นที่เป็นสมาร์ตซิตี้ ได้มาแสดงความจำนง และเชื่อว่าจะเป็นพื้นที่ตัวอย่างในการพัฒนาเมืองพร้อมกับการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนด้วย นอกจากนี้ ในส่วนของที่เป็นพื้นที่ของการรถไฟฯ ยังมีพื้นที่มักกะสัน เป็นหนึ่งในส่วนของการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สถานี

สำหรับในส่วนกรุงเทพมหานคร โครงการรถไฟฟ้าเฟส 1 จำนวน 10 สาย และพร้อมจะเปิดให้บริการครบทุกสายภายในระยะเวลา 5-6 ปี สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็นวันละราว 2.7 ล้านคน ซึ่งเมื่อโครงข่ายการคมนาคมก่อสร้างแล้วเสร็จ จะมีประชาชนย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในเมืองใหญ่เพิ่มขึ้น โดยเป็นแนวโน้มทั่วไปของการพัฒนาเมือง ดังนั้นประชากรที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ อาจขยายตัวจาก 10 ล้านคนในปัจจุบัน เป็น 15-20 ล้านคนได้ และส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่แนวโครงข่ายรถไฟฟ้า และเชื่อว่าเป็นโอกาสของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ด้านนายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ มีหลายปัจจัยที่เข้ามากระทบตลาด โดยเฉพาะมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้านแบบใหม่ (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เม.ย.นี้ ทำให้ผู้ประกอบการต่างเร่งระบายสต๊อกสินค้าและออกโปรโมชั่นพิเศษ ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มที่กำลังต้องการหาซื้อที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว ประกอบกับงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ในครั้งนี้ มีผู้ประกอบการเข้าร่วมจัดงานกว่า 150 ราย นำกว่า 1,000 โครงการที่อยู่อาศัย เข้าร่วมจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ทั้งส่วนลดราคาและของแถม คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเข้าร่วมงานเกือบ 1 แสนคน และมียอดจองและขายทั้งภายในงานและต่อเนื่องหลังงานรวมกว่า 6 พันล้านบาท งานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 มี.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์

ในขณะที่ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมียอดโอนกรรมสิทธิ์มูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ส่วนปัจจัยด้านการเมือง ซึ่งหากรัฐบาลชุดใหม่มีเสถียรภาพ สถานการณ์ทางการเมืองนิ่ง เศรษฐกิจของประเทศก็น่าจะกลับมาฟื้นตัว และเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในครึ่งปีหลังก็จะกลับมาคึกคักยิ่งขึ้น ทั้งยังต้องรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลชุดใหม่ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน