รายงานข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ในที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.ที่มีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นประธาน ได้มีการเสนอเพื่อพิจารณาถึงแนวทางของมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาขาดรายได้ หรือรายได้ไม่เพียงพอในการชำระหนี้ โดยคาดว่าจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาเห็นชอบอย่างเร็วที่สุดในวันนี้ (27 ก.ย.59) เพื่อขออนุมัติโครงการและงบประมาณอุดหนุน
มาตรการช่วยเหลือเกษตรในเบื้องต้นที่เสนอในที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.จะมีทั้งมาตรการ พักหนี้ , ตัดหนี้บางส่วน และตัดยอดดอกเบี้ย เพื่อลดรายจ่าย และลดภาระในการชำระหนี้ให้เกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรนำเงินที่ไม่ต้องชำระหนี้บางส่วนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะส่งผลให้เงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้อย่างต่อเนื่อง
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
ทั้งนี้ที่ผ่านมานายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ รมว.คลัง ไปหารือกับ ธ.ก.ส และสำนักงบประมาณ เพื่อออกมาตรการตัดหนี้ ให้กับลูกค้าที่ขึ้นทะเบียนกับ ธ.ก.ส.ไว้ 4 ล้านคน
รายงานข่าว กล่าวว่า สาระสำคัญเบื้องต้นของมาตรการในส่วนของการพักหนี้ จะเป็นการพักหนี้เกษตรกร 3-5 ปี และหากเป็นเกษตรกรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ต้องการส่งต่ออาชีพเกษตรกรให้ทายาท จะได้พักหนี้เป็นเวลา 5 ปี โดยปลอดชำระเงินต้น 2 ปี แต่ในระหว่างนั้นต้องให้ทายาทของเกษตรกร เข้ามาผ่านการอบรม เพื่อรับช่วงอาชีพเกษตรกรต่อไป โดยจะตัดหนี้ที่เป็นต้นเงินกู้ให้ประมาณ 10-30% ของต้นเงินกู้ทั้งหมด หากกรณีเป็นเกษตรกรที่ทุพพลภาพ จะตัดหนี้ให้ถึง 50% ของต้นเงินกู้ทั้งหมด และก็อาจจะมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ชำระหนี้ดีมาตลอดด้วย เช่น ชำระดี มีคืน
อย่างไรก็ตามคำสั่งของนายสมคิด ได้ระบุว่า จะต้องตัดหนี้ แบบมากที่สุด และสั้นที่สุด เพื่อช่วยใส่เงินโดยตรงถึงมือเกษตรกร และลดภาระค่าใช้จ่ายให้มีความชัดเจน ซึ่งโครงการนี้มีความจำเป็นและเร่งด่วนมาก เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยและราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
