บมจ.ไทยออยล์ เผยราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะผันผวนอยู่ในระดับสูง เนื่องจากได้รับสัญญาณที่ดีจากความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในการหารือสถานการณ์ตลาดและมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบ ประกอบกับภาวะอุปทานล้นตลาดมีแนวโน้มที่จะคลี่คลายลง นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม อย่างไรก็ดี ราคายังถูกกดดันจากการเริ่มส่งออกเพิ่มขึ้นจากลิเบีย

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ได้แก่ ข่าวความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในการหามาตรการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบคาดว่าจะส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมันดิบ หลังประธานาธิบดีเวเนซุเอลา กล่าวว่าการประชุมร่วมครั้งนี้มีแนวโน้มจะบรรลุข้อตกลงภายในเดือนนี้ ขณะที่การประชุมในวันที่ 26-28 ก.ย. นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการร่วมหารือกัน อย่างไรก็ตาม นายโมฮัมเหม็ด บาร์กินโด เลขาธิการกลุ่มโอเปกมองว่าการประชุมครั้งนี้อาจถือเป็นการประชุมอย่างไม่เป็นทางการเพื่อปรึกษาหารือเท่านั้น อาจยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ เกิดขึ้น

ตลาดน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 ก.ย. ปรับลดลงต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ราว 6.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ยังลดลงราว 3.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดไว้ว่าจะลดลงเพียง 0.53 ล้านบาร์เรล

untitled

ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง หลังธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25-0.50% ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ วันที่ 20 – 21 ก.ย. ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะดีดตัวสูงขึ้นเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะส่งผลให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ อย่างไรก็ตาม นางเจเน็ต เยลเลนส่งสัญญาณหลังการประชุมว่ามีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นดอกเบี้ยหนึ่งครั้งภายในปีนี้ หากตลาดแรงงานมีทิศทางที่ดีขึ้น

ลิเบียกลับมาส่งออกน้ำมันดิบปริมาณ 700,000 บาร์เรลออกจากท่าขนส่ง Ras Lanuf เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2014 ในขณะที่ เรือลำที่สองกำลังเตรียมที่จะส่งออกน้ำมันดิบเช่นกัน ซึ่งหากท่าขนส่งน้ำมันดิบ Ras Lanuf กลับมาดำเนินการได้ปกติ จะส่งผลให้กำลังการผลิตของประเทศลิเบียจะเพิ่มขึ้นอีก 220,000 บาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่ผลิตอยู่ที่ระดับ 290,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ประเทศลิเบียยังคงเผชิญกับความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ และยังเกิดเหตุการณ์บุกยึดท่าขนส่งน้ำมันดิบ Ras Lanuf ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ตลาดมีความกังวลกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลัง Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 23 ก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 แท่น มาสู่ระดับ 418 แท่น เพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 11 ในช่วง 12 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่การเพิ่มขึ้นของจำนวนแท่นขุดเจาะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลงเมื่อเทียบกับเดือน ก.ค. เนื่องจากราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับราคาที่นักวิเคราะห์และผู้ผลิตเห็นพ้องกันว่าเหมาะแก่การลงทุนขุดเจาะหลุมน้ำมันดิบเพิ่ม

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐฯ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ดัชนีการบริการและภาคการผลิตจีน และจีดีพีไตรมาส 2/59 สหรัฐฯ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน