ผ่าวิกฤตฝุ่นควัน‘PM 2.5’ ฉุดเที่ยวสงกรานต์เหนือวูบ : รายงานพิเศษ

ผ่าวิกฤตฝุ่นควัน – วิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือลามหนัก เชียงใหม่ มีค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานกระทบต่อสุขภาพ ครองแชมป์อันดับ 1 ของโลก เมืองที่มีสภาพอากาศแย่ จนคนเมืองเชียงใหม่ประกาศหาดอยสุเทพ ด้วยความหนาแน่นของฝุ่นควันพิษทำให้เชียงใหม่กลายเป็นเมืองในหมอกควัน แม้ทุกภาคส่วนจะช่วยกันระดมสรรพกำลังช่วยกันฉีดน้ำ เพื่อให้ฝุ่นลดลงแต่เหมือนจะยังไม่ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลาย

ภาคการท่องเที่ยวรวมถึงภาครัฐ เริ่ม กุมขมับ เพราะใกล้เทศกาลสงกรานต์ หรือ ปี๋ใหม่เมือง ที่เป็นเทศกาลของคนเชียงใหม่เมืองเชียงใหม่ ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลไปสัมผัสความสนุก วัฒนธรรมของเชียงใหม่ ด้วยสถานการณ์ฝุ่นควันหนักหนาสาหัส ทั้งรุนแรง และยาวนาน จนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเร่งรับมือ

เมื่อเมืองท่องเที่ยวถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันที่เกินค่ามาตรฐาน หลายต่อหลายครั้งยังจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าไปเยือนได้อีกหรือไม่?

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า คาดปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ที่เกิดจากไฟไหม้ป่าทางภาคเหนือ ส่งผลต่อบรรยากาศ การท่องเที่ยวภาคเหนือในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คาดจะทำให้นักท่องเที่ยวลดลงประมาณ 10% หรือคิดเป็น เม็ดเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท

เป็นยอดนักท่องเที่ยวจากภาคเหนือเน้นหนักใน 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ส่งผลให้ยอดรายได้ที่เงินจะสะพัดจากสงกรานต์ประมาณ 20,000 ล้านบาท จะเหลือประมาณ 18,000 ล้านบาททั่วประเทศ

จากสถานการณ์ฝุ่นควันเชียงใหม่ ที่เกิดจากไฟป่า นักท่องเที่ยวยกเลิกการจองห้องพักประมาณ 10-15% จากช่วง 12 มี.ค.2562 อัตราการจองห้องพักอยู่ที่ประมาณ 82% ของจำนวนห้องพักทั้งเชียงใหม่ ปัญหาการจองห้องพักลดลงเห็นชัดคือโรงแรมหรือห้องพักที่ เชียงดาว แม่ริม ฝาง ที่มีจำนวนโรงแรมประมาณ 250 แห่งจำนวนห้องพัก 20,000 ห้อง มีอัตราการจองลดลงเหลือประมาณ 50% ของปีก่อน

ส่วนตัวเลขการเดินทางโดยเครื่องบินไปภาคเหนือ โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ การท่าอากาศยานไทย จำกัด (เอโอที) หรือ ทอท. แจ้งว่า ยังไม่ยกเลิกการเดินทางจากนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด แต่จากตัวเลขยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากฝุ่นควัน คือยอดการจองห้องพักในจังหวัดแม่ฮ่องสอนตอนนี้ลดลงเหลือไม่ถึง 30% ของจำนวนห้องพัก และบางโรงแรมถือโอกาสปิดปรับปรุงไปเลย

ส่วนภาพรวมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ททท. คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยประมาณ 546,000 คน ส่วนคนไทยเดินทางในประเทศ 3.1 ล้านคน-ครั้ง หรือโตประมาณ 3% จากปีก่อน ส่วนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท/คน/ทริป ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจะทำให้เงินสะพัดรวม 20,000 ล้านบาท

นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมภาคเหนือ กล่าวว่า คาดว่า 2 สัปดาห์แรก เดือนเม.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงสงกรานต์จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเชียงใหม่น่าจะลดลงมาก จากสถานการณ์ฝุ่นควัน ที่ทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจไม่เข้ามา ท่องเที่ยวที่เชียงใหม่

โดยเดือน มี.ค.มีอัตราการจองห้องพักลดลงประมาณ 5-8% และยอดจองห้องพัก 2 สัปดาห์แรก เดือน เม.ย.มีอัตราลดลงประมาณ 15% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีการจองเข้ามาประมาณ 80-85% และก่อนเริ่มสงกรานต์ ก็จะมีเข้ามาประมาณ 70-75% แต่ขณะนี้มียอดจองห้องพักในเชียงใหม่ ประมาณ 60% เท่านั้น

สําหรับห้องพักในเชียงใหม่มีประมาณ 60,000 ห้อง ยังไม่รวมแอร์บีเอ็นบี อีกประมาณ 10,000 ห้อง ราคามีตั้งแต่หลัก 100 ถึงหลักหมื่นบาทต่อห้อง โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเที่ยวสงกรานต์เชียงใหม่ 40% เป็นต่างประเทศ และ 60% เป็น นักท่องเที่ยวในประเทศ

ที่ผ่านมาในระดับจังหวัดหารือร่วมกับการท่องเที่ยวภาคเหนือ ผู้ว่าราชการและเอกชนในภาคเหนือ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นควันให้ช่วยกันฉีดสเปรย์น้ำไล่ฝุ่น ซึ่งขณะนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องลุ้นอีก 1-2 วัน สถานการณ์จะคลี่คลาย อาจมีฝนตก ซึ่งปัญหาฝุ่นมีต้นเหตุ 2 เรื่อง คือต้นเหตุจากคน เกษตรกร เผาป่า และภัยธรรมชาติ ซึ่งก็ควบคุมไม่ได้

นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้ทำให้นักท่องเที่ยวจีนที่พุ่งเป้าไปเที่ยวภาคเหนือลดลงโดยเฉพาะในเทศกาลสงกรานต์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ดีเท่าที่ควร พบว่าการจองเที่ยวบินตรงไม่เต็ม การจองโรงแรมก็ไม่เต็ม จึงถือว่ามาถูกเวลามากๆ

นายเจริญ วังอนานนท์ อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) กล่าวว่า ปี 2562 คาดว่าคนไทยเดินทางไปต่างประเทศ หรือตลาดนักท่องเที่ยว เอาต์บาวด์ จำนวน 10.9-11 ล้านคน เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 8.5-10% คิดเป็นรายจ่ายที่ต้องสูญเสียไปจากการท่องเที่ยวของคนไทยประมาณ 330,000 ล้านบาท/ปี จากปี 2561 ที่มีการเติบโตทั้งปี 10 ล้านคน

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง มีวันหยุดราชการถึง 5 วัน แต่ในกลุ่มที่วางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ จะเริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 6-15 เม.ย.หรือประมาณ 10 วัน ประเทศที่นิยมไปอันดับ 1 คือญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าปีนี้ยอดคนไทยเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นน่าจะถึง 1.2 ล้านคน และยอดจะ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกในปีหน้า รองลงมาคือยุโรป

“สงกรานต์ คนไทยเดินทางไปต่างประเทศประมาณวันละ 30,000 คน เริ่มเดินทางไปตั้งแต่ประมาณวันที่ 6 เม.ย. รวมสิ้นสุดวันหยุดยาวประมาณ 10 วัน มีค่าใช้จ่ายรวมต่อทริปประมาณ 30,000 บาท/คน หรือคนไทยจะใช้เงินท่องเที่ยวเมืองนอก ช่วงสงกรานต์ประมาณไม่ต่ำกว่า 9,000 ล้านบาท”

เมื่อเหตุการณ์ไฟป่า ททท.ไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลกระทบต่อยอดนักท่องเที่ยว ภาพรวม แต่สิ่งที่ ททท.เป็นห่วงไม่แพ้กัน คือช่วงเทศกาลสงกรานต์ คนไทยเตรียมเดินทางออกไปเที่ยวยุโรป ญี่ปุ่น จำนวนมาก โดยช่วง 10 วัน ทอท.แจ้งว่ามีคนไทยเดินทางไปต่างประเทศจำนวนมากวันละ 40,000 คน โดยกลุ่มที่ไปเป็นกลุ่มชนชั้นกลาง ที่น่าจะมีการใช้จ่ายเงินจำนวนมากพอสมควร

แม้ ททท.จะเสริมความมั่นใจให้กับ นักท่องเที่ยวโดยการทำน้ำตก น้ำพุ หรือม่านน้ำพื้นที่เชียงใหม่ เพื่อชะล้างฝุ่นควัน ให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวสงกรานต์อย่างสบายใจ โดย ททท.ยังเดินหน้ากิจกรรมในเทศกาลสงกรานต์ปกติทุกงาน ไม่มียกเลิก เริ่มตั้งแต่วันที่ 6-7 เม.ย.2562 ไปจนถึงเทศกาลสงกรานต์

เหมือนมรสุมรอบทิศ เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไทยเที่ยวไทย มียอดการ ท่องเที่ยวน้อยลง ยังมีคนไทยอีกไม่น้อย ที่หนีไปเที่ยวต่างประเทศ ที่รัฐบาล และ ททท.ต้องหาวิธีรับมือ

เพื่อไม่ให้กระทบเป้าหมายการท่องเที่ยวสร้างรายได้ปี 2562 วงเงิน 3.4 ล้านล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน