กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยเอฟทีเอช่วยให้การส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นม ขยายตัว 3,258% พร้อมเดินหน้าสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโคนมไทย พัฒนาศักยภาพการแข่งขันรับมือการค้าเสรี

ส่งออกนมไทยพุ่งกระฉูด – นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (จร.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นม พบว่าความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เป็นปัจจัยสำคัญต่อการขยายตัวของการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมของไทย เนื่องจากภายใต้เอฟทีเอ 12 ฉบับที่ไทยทำกับ 17 ประเทศ ซึ่งมี 13 ประเทศที่ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้านมและผลิตภัณฑ์จากไทย ได้แก่ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และชิลี เหลืออีก 4 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และเปรู ที่ยังเก็บภาษีนำเข้าสินค้านมและผลิตภัณฑ์บางรายการจากไทย เช่น ญี่ปุ่น (นม 21.3-25.5% โยเกิร์ต 21.3-29% ชีส 22.4-40%) เกาหลีใต้ (นม 26.8% โยเกิร์ต 28.8% ชีส 36%) เป็นต้น

ซึ่งจากมูลค่าการส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์ของไทยภายใต้เอฟทีเอพบว่า ในปี 2561 ไทยมีมูลค่าส่งออก 437.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 3,258% เมื่อเทียบกับปี 2535 ซึ่งเป็นปีก่อนที่ความตกลงเอฟทีเอฉบับแรกของไทยที่ทำกับอาเซียนจะมีผลบังคับใช้ (ขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้านมและผลิตภัณฑ์ของไทยจากประเทศเหล่านี้ ขยายตัวเพียง 187%) โดยมูลค่าการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์ภายใต้เอฟทีเอ คิดเป็น 92% ของการส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์ของไทยไปทั่วโลก โดยอาเซียนและจีนเป็นตลาดที่ไทยส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยในปี 2561 ขยายตัว 3,389% และ 5,550% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ไทยทำความตกลงเอฟทีเอ

“กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมของเกษตรกรและผู้ประกอบการโคนมไทยรองรับการค้าเสรี ดังนั้น ในการเจรจาเอฟทีเอที่ผ่านมา จึงได้เจรจาต่อรองทยอยลดภาษีศุลกากรสินค้านมและผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากประเทศคู่เอฟทีเอแบบค่อยเป็นค่อยไป ควบคู่กับการใช้มาตรการโควต้าภาษีและมาตรการปกป้องพิเศษ เพื่อช่วยภาคการผลิตและอุตสาหกรรมโคนมไทยมีเวลาปรับตัวก่อนเปิดตลาดรับการแข่งขันในอนาคต อาทิ การเปิดตลาดให้กับสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในปี 2564 และ 2568”นางอรมน กล่าว

นอกจากนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจับมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมปศุสัตว์ และชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่พบปะกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโคนมในภูมิภาคต่างๆ ของไทย เช่น เชียงใหม่ สระบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น และกาญจนบุรี เป็นต้น เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับตัวและเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันในโลกการค้าเสรี โดยเฉพาะการร่วมมือกันทำงานระหว่างผู้ประกอบการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อพัฒนาศักยภาพ คุณภาพการผลิตนมและผลิตภัณฑ์นมของไทย ให้สามารถแข่งขันขยายสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกไปอาเซียนและจีนโดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ โดยในปีที่ผ่านมา กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้พาผู้ประกอบการนมและผลิตภัณฑ์นมของไทยไปเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องที่เซี่ยงไฮ้ เพื่อศึกษาความต้องการของผู้บริโภคในตลาดจีนด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน