เอกชนระบุส่งออกทั้งปีเหลือแค่ 2.1% กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเตรียมถกทูตพาณิชย์ พ.ค.นี้ เล็งปรับเป้าส่งออกคาดลดลงจากเป้าเดิม 8%

เอกชนหั่นเป้าส่งออกเหลือ 2.1% – น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกไตรมาส 2 ของปี 2562 ว่า การประเมินเป้าหมายส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายเดิมที่ 8% แต่จากสถานการณ์การส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก คาดว่าการประชุมทูตพาณิชย์ในวันที่ 31 พ.ค. 2562 จะประเมินตัวเลขส่งออกอีกครั้ง

หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายอาจจะต้องพิจารณาปรับตัวเลขการส่งออกเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเบื้องต้นได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ประเมินสถานการณ์การนำเข้าสินค้าไทยและการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ สำหรับประเทศที่นำเข้าเพื่อประเมินสถานการณ์หากว่าไทยจะผลักดันการส่งออกจะดำเนินการอย่างไรต้องมีกิจกรรมอะไรบ้างเพื่อให้การส่งออกไปได้ตามเป้าหมาย พร้อมกับปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง อีกทั้ง ให้ทูตพาณิชย์ประเมินตัวเลขการส่งออกในรายประเทศอีกครั้งเพื่อให้การส่งออกเป็นไปได้มากที่สุดโดยสรุปและนำมาเสนอในที่ประชุมทูตพาณิชย์

อย่างไรก็ดี การประชุมครั้งนี้ที่ประชุมเห็นชอบในการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นคณะทำงานร่วมกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและภาคเอกชน โดยคณะทำงานชุดนี้จะหารือเพื่อลดอุปสรรคทางการค้า หากต้องเสนอไปยังระดับนโยบายเพื่อเข้ามาช่วยเหลือก็จะสรุปผลให้เสนอไปยังหน่วยงาน หรือคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจต่อไป เพื่อผลักดันแก้ไข ทั้งนี้ หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมที่จะหารือร่วมเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาต่อไป

พร้อมกันนี้ เชื่อว่าภายหลังที่ประเทศไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้เป็นที่เรียบร้อย นโยบายด้านเศรษฐกิจมีความชัดเจนก็เชื่อว่าจะทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องมีการเติบโตได้

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการประชุมครั้งนี้ภาคเอกชนประเมินการส่งออกปรับลดลงจากเดิม 3.1% ลงมาอยู่ที่ 2.1% เป็นผลมาจากปัจจัยเศรษฐกิจของประเทศผู้นำเข้า การเสียเปรียบด้านสิทธิประโยชน์ที่มีผลต่อการแข่งขันทางการค้ารวมไปถึงภาพของราคาน้ำมันลดลง ซึ่งมีผลต่อสินค้าที่เกี่ยวเนื่องแม้ปริมาณไม่ลดลงแต่มีผลทำให้ราคาปรับลดลง โดยการส่งออกทั้งปีโต 2.1% และการส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนจากนี้จะต้องส่งออกมีมูลค่า 21,560 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน

สำหรับประเมินการส่งออกรายกลุ่มสินค้า ภาคเอกชนมองว่าการส่งออกยางพารา โต 5% มันสำปะหลัง ติดลบ 10% อาหาร โต 5% น้ำตาล ติดลบ 5% ทำให้ภาคการส่งออกในกลุ่มเกษตรเฉลี่ยส่งออกอยู่ที่ 1.6% ส่วนภาคอุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์ โต 1.4% รถยนต์และส่วนประกอบ โต 3% เครื่องใช้ไฟฟ้า โต 1.1% เม็ดพลาสติก โต 2% อัญมณีและทอง โต 3% น้ำมันสำเร็จรูป โต 2% ก่อสร้าง โต 5% ผลิตภัณฑ์จากยางพารา โต 7% เครื่องจักรและส่วนประกอบ โต 3% สิ่งทอ โต 3% และเคมีภัณฑ์ โต 2% ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออก โต 2.3%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน