แบงก์ลั่น เศรษฐีเมินเสียภาษีดอกเบี้ยฝาก สรรพากรย้ำ ไม่ไล่เช็คบิลข้อมูล ประชาชนสบายใจได้
วันที่ 3 พ.ค. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับใหม่ เพื่อให้การส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินลูกค้าของธนาคารพาณิชย์มาให้กรมสรรพากรไม่กระทบกับผู้ฝากเงินที่มีภาระดอกเบี้ยรวมกันทุกบัญชีไม่เกิน 2 หมื่นบาท ไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก 15%
ทั้งนี้ ประกาศใหม่นี้ จะให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ทุกบัญชีมาให้กรมสรรพากรประมวลผล หากผู้ที่มีรายได้ดอกเบี้ยไม่เกิน 2 หมื่นบาท ก็ไม่มีภาระต้องเสียภาษี แต่หากมีรายได้ดอกเบี้ยเกิน 2 หมื่นบาท ทางกรมสรรพากรจะส่งข้อมูลกลับไปให้ธนาคารพาณิชย์ทำการหักภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก 15% ให้กับกรมสรรพากร
โดยที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ต้องส่งข้อมูลดอกเบี้ยออมทรัพย์ให้กรมสรรพากรอยู่แล้ว ในรูปของ ภ.ง.ด.2 เป็นเอกสารกระดาษไปให้กับกรมสรรพากรพื้นที่ที่รับผิดชอบอยู่ แต่ระบบใหม่จะให้ส่งเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ระบบกลางของกรมสรรพากร ซึ่งจะทำให้การประมวลผลมีประสิทธิภาพมากกว่า
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
“ผู้ฝากเงินออมทรัพย์ไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องไปแจ้งธนาคารว่าให้ยินยอมส่งข้อมูลเหมือนประกาศฉบับเก่า เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากกับผู้ฝากเงิน ยกเว้นผู้ฝากเงินที่ไม่ต้องการให้ธนาคารส่งข้อมูลดอกเบี้ยให้กรมสรรพากร ก็ไปแจ้งกับธนาคารได้ แต่ธนาคารต้องหักดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ตั้งแต่บาทแรกให้กรมสรรพากรทันที ไม่ได้รับการยกเว้น” นายเอกนิติ กล่าว
ทั้งนี้ สรรพากรย้ำว่า แม้ว่าจะไม่มีประกาศดังกล่าว ธนาคารก็ต้องส่งข้อมูลมาให้สรรพากรอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องกลัวสรรพากรจะไปล้วงข้อมูลในบัญชีเงินฝาก เพราะเป็นเป็นการส่งแค่ตัวเลขดอกเบี้ยในบัญชีเท่านั้น ไม่ได้ส่งข้อมูลอื่น และต่อให้ไม่มีข้อมูลนี้ สรรพากรก็มีข้อมูลอื่นอีกจำนวนมาก ในการเข้าไปเรียกเก็บภาษี เพราะที่ผ่านมา มีการไปลือกันว่าสรรพากรจะตรวจสอบบัญชี ให้ไปใช้จ่ายเป็นเงินสดแทน ซึ่งเป็นเรื่องที่คิดเองเออเอง เพราะยิ่งจ่ายเงินสด จะยิ่งโดนตรวจ
นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีธนาคารพาณิชย์และลูกค้าของธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ทำการซอยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เพื่อเลี่ยงการจ่ายภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ซึ่งนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง ได้เคยเรียกธนาคารพาณิชย์หลายแห่งมาเตือนถึงการกระทำดังกล่าวแล้ว และมีการปรับผู้ฝากเงินที่ไม่ยอมเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากด้วย แต่เมื่อใช้ระบบใหม่ปัญหาดังกล่าวก็จะหมดไป
ด้าน นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 7-14 พ.ค. นี้ ธนาคารทุกแห่งจะเปิดให้ลูกค้าที่ไม่ต้องการให้ส่งข้อมูลดอกเบี้ยออมทรัพย์ให้กับกรมสรรพากร มาลงทะเบียนกรอกแบบฟอร์ม ซึ่งเป็นแบบเหมือนกันทุกธนาคาร และต้องลงทะเบียน 1 บัญชี ต่อ 1 แบบฟอร์ม ซึ่งคาดว่าจะไม่มีคนมาลงทะเบียนเลย
อย่างไรก็ดี การจ่ายดอกเบี้ยออมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์จะดำเนินการปีละ 2 ครั้ง ในเดือน มิ.ย. และ ธ.ค. โดยปัจจุบัน พบว่า มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ในระบบธนาคาร ประมาณ 80 ล้านบัญชี ในจำนวนนี้มีไม่ถึง 1% ที่มีรายได้ดอกเบี้ยออมทรัพย์เกิน 2 หมื่นบาท เสียภาษีให้กรมสรรพากรปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท
