คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติเป็นเอกฉันท์ คงดอกเบี้ย ชี้ ส่งออก-ลงทุนทรุด คาดทั้งปีเศรษฐกิจโตไม่ตามเป้า หลังการค้าโลก-การเมืองไม่นิ่ง ทำปั่นป่วนหนัก

กนง. คงดอกเบี้ย ส่งออก-ลงทุนทรุด – นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ จากการส่งออกและการลงทุน โดยการส่งออกชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก รวมทั้งผลของมาตรการกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะเดียวกันการใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาด มาจากความล่าช้าในโครงการลงทุน ส่วนภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับอุปสงค์ในประเทศ ที่การบริโภคเอกชนขยายตัว

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวกว่าที่คาดไว้ โดยเครื่องชี้ล่าสุดในไตรมาส 1/2562 ขยายตัวต่ำกว่าที่คาด ทั้งในด้านการส่งออกและการลงทุน ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนในระยะต่อไป จากความเสี่ยงทั้งปัจจัยต่างประเทศ จากมาตรการกีดกันทางการค้า และปัจจัยในประเทศ คือ ปัญหาการเมือง ที่มีหลายมิติให้ติดตาม ทั้งการใช้จ่ายภาครัฐและการออกนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทำให้ในที่ประชุม กนง. มีการประเมินว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ จะต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้

อย่างไรก็ดี แนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ จะส่งผลให้ กนง. พิจารณาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอีกต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัย ณ ขณะนั้น โดย กนง. จะพิจารณาจากข้อมูล (Data Independent) เป็นครั้งๆ และประเมินสถานการณ์ออกในรูปแบบต่างๆ เพื่อใช้กำหนดนโยบายการเงินในระยะต่อไป

นายทิตนันทิ์ กล่าวว่า ภาวะการเงินที่ผ่านมาอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวเศรษฐกิจ สภาพคล่องในระบบการเงินอยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำ ภาคเอกชนยังสามารถระดมทุนได้ต่อเนื่อง โดยสินเชื่อขยายตัวทั้งในส่วนสินเชื่อธุรกิจและอุปโภคบริโภค ด้านอัตราแลกเปลี่ยนนับจากการประชุมครั้งก่อน เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเคลื่อนไหวสอดคล้องกับเงินในสกุลภูมิภาค ในระยะข้างหน้าอัตราแลกเปลี่ยนยังมีแนวโน้มผันผวนจากความไม่แน่นอนทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ จะต้องมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

ทั้งนี้ กนง. ยังต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจสร้างความเปราะบางให้เสถียรภาพการเงินในอนาคต ยังต้องติดตามการก่อหนี้ภาคครัวเรือนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ รวมทั้งการก่อหนี้ของธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร มองไปข้างหน้าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แม้แรงส่งจากอุปสงค์ต่างประเทศจะชะลอตัวลง ซึ่ง กนง. เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในปัจจุบันยังมีความเหมาะสม โดยจะต้องติดตามพัฒนาการการขยายตัวเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน อย่างใกล้ชิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน