บอร์ดกทพ. อนุมัติยืดสัมปทาน 3 ด่วน ให้บีอีเอ็ม เส้นละ 30 ปี แลกล้างหนี้ค่าโง่ทางด่วน 5.9 หมื่นล.

บอร์ด กทพ.อนุมัติขยายสัมปทาน 3 ด่วนให้บีอีเอ็มเส้นละ 30 ปี แลกล้างหนี้ค่าโง่ทางด่วน 5.9 หมื่นล้าน ยันเป็นข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ส่วนรวม เตรียมชงข้อสรุป เล็งเสนอ ครม. ไฟเขียวเร็วที่สุด

กทพ. อนุมัติยืดสัมปทาน 3 ด่วน – นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงผลบการประชุมบอร์ด กทพ. ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามผลการเจรจาของอนุกรรมการ ให้ กทพ.ยุติข้อพิพาท กับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) กรณีกทพ. ถูกฟ้องร้องว่ามีการสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต ขึ้นมาแข่งขัน และมีการอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าผ่านทางไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ เนื่องจากบีอีเอ็มได้ยอมปรับลดมูลหนี้ฟ้องร้องลง 7,100 ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ของ กทพ. ปรับลดจาก 1.3 แสนล้านบาท เหลือ 5.9 หมื่นล้านบาท ขณะที่ กทพ. ได้ตกลงที่จะขยายระยะเวลาสัมปทานทางด่วนจำนวน 3 สัญญาให้กับบีอีเอ็ม สัญญาละอีก 30 ปีหลังจากสิ้นสุดสัญญาเดิม ซึ่งประกอบด้วย 1. ทางด่วนพิเศษศรีรัช 2.ทางด่วน ช่วงอโศก-ศรีครินทร์ และ 3.ทางด่วนอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด)

โดย กทพ. ได้กำหนดเงื่อนไขท้ายสัญญาว่า บีอีเอ็มจะไม่สามารถยกมูลฟ้องเรื่องกทพ.สร้างทางมาแข่งขัน และปรับขึ้นค่าผ่านทางไม่เป็นธรรมขึ้นมาฟ้องร้องได้อีกทั้งในส่วนคดีที่ศาลพิพากษาไปแล้วและคดีฟ้องร้องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้ง บีอีเอ็มจะต้องลงทุนก่อสร้างทางด่วน 2 ชั้น บริเวณอโศก-ศรีนครินทร์ วงเงินลงทุนราว 3 หมื่นล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาจราจรบนทางด่วน โดยหากไม่สามารถก่อสร้างทางดังกล่าวได้จากกรณีที่โครงการไม่ผ่านอีไอเอภายใน 2 ปี กทพ. จะถูกปรับลดระยะเวลาการขยายสัมปทานทางด่วน ช่วงอโศก-ศรีครินทร์ลงเหลือ 15 ปีจากเดิม 30 ปี

นอกจากนี้ บีอีเอ็มจะต้องทำการปรับลดค่าผ่านทางด่านอาญณรงค์ และสร้างทางเชื่อมขึ้นลงจากทางด่วนไปยังสถานีกลางบางซื่อด้วยตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาข้อพิพาทเรื่องการปรับขึ้นค่าผ่านทางไม่เป็นธรรมในอนาคตอีก ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ปรับแก้เกณฑ์การปรับขึ้นค่าผ่านใหม่ โดยจะไม่ยึดตามกรอบของอัตราเงินเฟ้อโดยกำหนดกรอบใหม่ให้มีการปรับขึ้นค่าผ่านทาง จำนวน 10 บาท ในทุกๆ 10 ปี

นายสุรงค์ กล่าวต่อว่า การเจรจาครั้งนี้ถือเป็นการระงับปัญหาข้อพิพาททุกคดีกับบีอีเอ็ม เป็นการล้างหนี้จากข้อพิพาททั้งหมด ซึ่งหลังจากนี้ บีอีเอ็มต้องไปดำเนินการยกเลิกการฟ้องร้องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ขณะที่ สัปดาห์นี้ กทพ. จะเร่งหารือกับสำนักงานตราวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ทำการยกเลิกการบันทึกตัวเลขภาระหนี้จากการฟ้องร้องออกจากบัญชีของ กพท. ด้วย เพื่อให้ฐานะทางบัญชีของ กทพ. กลับสู่ภาวะปกติ

“ข้อสรุปทั้งหมดเป็นมติของบอร์ด กทพ. ซึ่งจะต้องมีการนำเสนอให้กระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาโดยเร็วที่สุด ซึ่ง กทพ. ยืนยันเป็นแนวทางที่ดีสุด และเป็นประโยชน์สูงสุดแล้ว เพราะ กทพ. ไม่เสียเปรียบ ไม่เป็นหนี้ ทำให้สามารถเดินหน้าโครงการลงทุนต่างๆ ต่อได้ ส่วนรัฐบาลก็ไม่ต้องมารับภาระหนี้เอกชน ขณะที่ประชาชนก็ได้ประโยชน์จากกรณีที่บีอีเอ็ม จะสร้างทางด่วนเพิ่ม และลดค่าผ่านทางให้ด้วย ถือว่าเป็นผลประโยชน์กับภาพรวมมาก”