พาณิชย์เดินหน้าอุ้มค้าปลีก กระตุ้นใช้เทคโนโลยีดิจิตอล – ปักหมุดร้านในกูเกิลแมพดึงลูกค้าใหม่เข้าร้าน

พาณิชย์เดินหน้าอุ้มค้าปลีก – นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการเป็นประธานเปิดโครงการอบรมผู้ประกอบธุรกิจค้าส่ง-ปลีกในยุค 4.0 หรือ “Retail Business 4.0 Conference” ภายใต้หัวข้อ อนาคตที่เรากำหนดได้ หรือ “The future is now” ครั้งที่ 2 ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับบริษัท พี แอนด์ จี บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ในการจัดอบรมดังกล่าว ก็เพื่อให้ผู้ประกอบการรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกทางการค้าเนื่องจากเทคโนโลยีดิจิตอลได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบการธุรกิจในสังคมไทย ในยุคดิจิตอลลักษณะการแข่งขันทางการตลาดและพฤติกรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแข่งขันในด้านราคาหรือการบริหารธุรกิจในรูปแบบเดิมอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการก้าวไปเป็นผู้นำในการแข่งขัน

ดังนั้นคู่ค้าธุรกิจค้าปลีก-ส่ง มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจโดยการนำวัตกรรม เทคโนโลยี และกลยุทธ์ทางธุรกิจสมัยใหม่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนการเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ เพิ่มความเข้าใจในความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของลูกค้า และพัฒนานวัตกรรมรูปแบบการทำธุรกิจ เพื่อยกระดับการเติบโตของธุรกิจในกลุ่มค้าส่ง-ปลีกในประเทศไทย

“ภายในสิ้นปี 2019 มีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากลุ่มธุรกิจค้าส่ง-ปลีก จะช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงานในระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ การเติบโตของกลุ่มธุรกิจนี้ ยังจะช่วยสร้างสินค้าที่หลากหลายให้กับร้านค้าปลีกขนาดเล็กและช่วยให้ร้านค้ากลุ่มนี้เติบโต ซึ่งถือเป็นหนึ่งวิธีในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว การผสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมค้าปลีก อย่างเช่น บริษัท พีแอนด์จี นับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจไทยในอนาคตให้มีความเข้มแข็ง”นายบุณยฤทธิ์ กล่าว

ด้านนายราฟฟี ฟาจาร์โด กรรมการผู้จัดการบริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ประเทศไทย พม่าและลาว กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ร่วมมือกับรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะพัฒนาเศรษฐกิจโดยการช่วยให้ธุรกิจของคู่ค้าธุรกิจค้าส่ง-ปลีกของเราเติบโต ในปีนี้เป็นปีที่ 2 แล้วที่พีแอนท์จีได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์จัดโครงการอบรมผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่ง-ปลีกในยุค 4.0 ซึ่งถือเป็นโครงการพันธกิจของเราที่จะช่วยนำประเทศไทยสู่ยุค 4.0 ในปีนี้เราเล็งเห็นความต้องการของคู่ค้าทางธุรกิจของเราอย่างชัดเจนในการปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิตอลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและพัฒนารูปแบบการทำธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยจำนวนของผู้เข้าร่วมที่มากขึ้นกว่า 250 หน่วยงานในปีนี้ ยิ่งยืนยันความต้องการในการสนับสนุนของเราที่มีต่อรัฐบาลไทยที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของรากฐานเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นที่แข็งแรงและความต้องการการช่วยเหลือของธุรกิจคู่ค้าให้กำหนดอนาคตทางธุรกิจของตัวเองได้

นายเบน คิง กรรมการผู้จัดการบริษัท กูเกิ้ล (ประเทศไทย) ได้กล่าวว่า รายงานประจำปีพ.ศ.2562 ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ จาก กูเกิ้ล-เทมาเส็ก บ่งชี้ว่า ธุรกิจด้านอินเตอร์เน็ตจะเติบโตจนมีมูลค่าถึง 43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี พ.ศ.2568 ธุรกิจที่นำการเติบโตนี้เป็นธุรกิจ SME ถึง 99.7% ซึ่งเป็น 42% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทย แต่เรายังควรผลักดัน การช่วยเหลือธุรกิจไทยให้เติบโตและประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล ความมุ่งมั่นของกูเกิ้ลประเทศไทย คือการช่วยให้คนไทยและธุรกิจไทย มีความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างแพร่หลาย ในหลายปีที่ผ่านมาเราได้มุ่งเน้นองค์กรของเราในการเข้าถึง ให้การศึกษา เพิ่มเนื้อหาและผลิตภัณฑ์ และธุรกิจ SME โดยหวังว่าเครื่องมือเช่น Google My Business ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้งานง่ายและไม่มีค่าใช้จ่าย จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถมีบทบาททางโลกออนไลน์ ทั้งใน Google Search และ Maps ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่และเพิ่มความสนใจกับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันซึ่งบริษัทมีความยินดีที่ได้ร่วมงานกับ พี แอนด์ จี เพื่อช่วยพัฒนา ธุรกิจ SME ในประเทศไทยให้ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล และช่วยให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ยุค 4.0

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน