เสี่ยสหพัฒน์ ลุ้นนายกฯ คนใหม่พรุ่งนี้ คาดปลายเดือนมิ.ย.นี้ตั้งรัฐบาลใหม่เสร็จ หวังหน้าตาดีมั่นคงมีเสถียรภาพ แต่หากยี้กระทบครึ่งปีหลังแผ่วแน่นอน หลังจัดตั้งล่าช้าเสียโอกาสเยอะ กลุ่มสหพัฒน์เองยังแตะเบรกลงทุน ปรับเป้าปีนี้รายได้โตเพียง 2.5-3%

เสี่ยสหพัฒน์ ลุ้นนายกฯ คนใหม่พรุ่งนี้ – นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจไทยซบเซามาก แม้ว่าจะเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว แต่เศรษฐกิจไทยหลังจากการเลือกตั้ง หากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้น่าจะดีขึ้น แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่เกิดขึ้น ทำให้ยังไม่เห็นความชัดเจน ส่งผลให้ประชาชนไม่กล้าจะจับจ่ายใช้สอย ทำให้กำลังซื้อโดยรวมยังทรงๆ ส่วนกำลังซื้อระดับรากหญ้าไม่ดีนัก

ขณะเดียวกันส่งผลให้ต่างชาติ และเอกชนไทยยังไม่กล้าที่จะลงทุน รวมทั้งโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้ลงทุนไว้ ยังไม่เห็นความชัดเจนว่าจะมีการดำเนินการต่อเนื่องหรือไม่ โดยต้องรอดูผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ หากเป็นคนเดิมเชื่อว่าโครงการต่างๆ จะมีการดำเนินการต่อเนื่อง และหากเป็นคนใหม่ต้องดูว่าเป็นใคร และมีประสบการณ์หรือไม่

“หนักใจรัฐบาลใหม่ยังตั้งไม่เสร็จ ทำให้ประชาชนรอคอย ทำให้เราเสียโอกาส คนต่างชาติชะลอการลงทุนในไทย หันไปลงทุนที่อื่นแทน เพราะความล่าช้า และจนถึงวันนี้ยังไม่เห็นโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ ล่าช้าเกินไปแล้ว แต่เชื่อว่าปลายเดือนมิ.ย.นี้ รัฐบาลใหม่น่าจะจัดตั้งเสร็จ และน่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่ยังต้องขึ้นกับหน้าตารัฐบาลใหม่ด้วย ถ้าหน้าตาดี มีความมั่นคง มีเสถียรภาพ อยู่ได้นาน จะทำให้ภาพรวมดีขึ้น แต่หากยี้ขึ้นมาก็เสร็จ และถ้ารัฐบาลใหม่ไม่มีเสถียรภาพก็จะกระทบภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง เนื่องจากช่วงนี้ตัวแปรเยอะ”

นายบุณยสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หวังว่ารัฐบาลใหม่จะมีนโยบายจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะรากหญ้า ด้วยการใช้มาตราการด้านการคลัง ถ้ารากหญ้ามีรายได้เพิ่มขึ้นก็จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อในประเทศ เพราะปัจจุบันกำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่สินค้าไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ เพราะถ้าขึ้นราคาผู้บริโภคก็จะยิ่งไม่ซื้อของ โดยหวังรัฐบาลใหม่จะเร่งคลอดมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะ 3 เดือนที่ผ่านมาเศรษฐกิจซบเซามาก

สำหรับเครือสหพัฒน์ปีนี้คงต้องชะลอการลงทุน จากเดิมวางแผนจะลงทุนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2-3 เท่าเพราะเชื่อว่าหลังเลือกตั้งจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ไม่นาน แต่ถึงตอนนี้มองว่าล่าช้า ทำให้ต้องชะลอในบางโครงการ เพราะมีพันธมิตรต่างชาติที่ร่วมลงทุน ซึ่งต้องดูว่าเชื่อมั่นขนาดไหนด้วย ทำให้ทั้งปีนี้เครือสหพัฒน์เขื่อว่ารายได้รวมจะเติบโต 2.5-3% ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 6% หรือมีรายได้กว่า 3 แสนล้านบาท

พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 23 โดยพร้อมโชว์นวัตกรรม และจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษส่งฟรีถึงบ้านกว่า 1,000 คูหา พร้อมทั้งจับมือกระทรวงพาณิชย์ ดึงร้านค้าธงฟ้าประชารัฐกว่า 30,000 ร้านทั่วประเทศ เข้าร่วมงาน วันที่ 27-30 มิ.ย.นี้ ที่ไบเทค บางนา คาดว่าจะเป็นงานที่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคให้คึกคักได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน