พาณิชย์กุมขมับส่งออกเดือนพ.ค. ทรุดหนักติดลบ 5.8% เซ่นพิษสงครามการค้า ฉุด 5 เดือนแรกร่วง 2.7% – จับตาบาทแข็งโป๊กต่อเนื่อง

ส่งออกเดือนพ.ค. ทรุดหนัก – น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบาย และยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า เดือนพ.ค. 2562 การส่งออก มีมูลค่า 21,018 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 5.8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน รวม 5 เดือนแรก ปี 2562 การส่งออกมีมูลค่า 101,561 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 2.7%

ทั้งนี้ การส่งออกติดลบเดือนพ.ค. เป็นผลมาจากการหดตัวของหลายสินค้าเมื่อเทียบกับปีก่อน เช่น การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตหดตัวที่ 1.4% อย่างไรก็ตาม เมื่อรวม 5 เดือนแรกของปี 2562 สินค้าเกษตรยังขยายตัวที่ 0.4% การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ที่ 5.8% รวม 5 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าสินค้าอุตสาหกรรม หดตัวที่ 2.9%

พิมพ์ชนก วอนขอพร

ขณะที่ตลาดส่งออกสำคัญการส่งออกไปตลาดส่วนใหญ่ยังหดตัว เช่น ตลาดศักยภาพสูงหดตัว 7.0% ซึ่งเกิดจากสงครามการค้าสหรัฐและจีน ทำให้เศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอ ไทยได้รับผลกระทบโดยตรงทำให้การส่งออกหลายตลาดติดลบ โดยเฉพาะอาเซียนสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน ทั้งเม็ดพลาสติก, เคมีภัณฑ์, น้ำมันสำเร็จรูป หากคิดเป็นมูลค่าจากปัญหาสงครามการค้าที่ส่งออกไปตลาดสหรัฐและจีนเดือนพ.ค. ลดลงมากถึง 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 0.64% ของมูลค่าการส่งออกของไทยโดยรวม แต่จากการพยายามผลักดันการส่งออกไปตลาดใหม่และการกระจายความเสี่ยง ทำให้การส่งออกของไทยปัจจุบันถือว่าดีกว่าหลายประเทศ โดยสินค้าเกษตรและอาหารของไทยยังคงเป็นที่ต้องการของคู่ค้า

สำรับการนำเข้าในเดือนพ.ค. พบว่ามีมูลค่า 20,836 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 0.6% ส่งผลให้การค้าเกินดุล 182 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้ามีมูลค่า 100,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 1.0% และการค้าเกินดุล 731 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังคงต้องจับตาค่าเงินบาทที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออก ซึ่งค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าได้อีก ผู้ส่งออกจำเป็นต้องทำประกันความเสี่ยง ขณะที่ภาครัฐควรมีมาตรการเพิ่มแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการ เพื่อให้การส่งออกรักษาเสถียรภาพของประเทศไว้ และเห็นว่าการส่งออกจะสามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปี แต่การส่งออกในช่วงที่เหลือหลังจากนี้แต่จะต้องเกินเดือนละ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงจะสามารถทำให้การส่งออกของประเทศเป็นบวกได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและภาคการส่งออกทั้งหมดได้วางกรอบการเจาะตลาดทุกภาคอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะครึ่งหลังปีนี้แบบเชิงลึก เพื่อให้ตัวเลขการส่งออกของไทยปีนี้ขยายตัวเป็นบวกไม่น้อยกว่า 3% หรือคิดเป็นมูลค่า 260,184 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“การส่งออกไทยยังได้รับผลกระทบน้อยกว่าหลายประเทศในภูมิภาค และขยายตัวได้ดีในหลายตลาดทั้งตลาดสำคัญเดิม เช่น สหรัฐ และอินเดีย และตลาดดาวรุ่งใหม่ เช่น แคนาดา และรัสเซียและ CISซึ่งในภาวะการค้าที่มีความท้าทายสูง การวางกลยุทธ์เจาะตลาดรายพื้นที่ การสนับสนุนสินค้าใหม่ที่มีศักยภาพเข้าสู่ตลาด และการขยายความร่วมมือทางการค้าในภูมิภาค จะช่วยสนับสนุนการขยายโอกาสการส่งออกในหลายตลาดและสินค้า”น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน