ททท.-ปตท. ชวนเที่ยวเมืองรองผ่านบัตรพีทีที บลูการ์ด ปั๊มรายได้ดูดนักท่องเที่ยว 45 ล้านคน – ชี้บาทแข็งดันแพ็กเกจเที่ยวไทยราคาเพิ่ม 10-20% ต่างชาติชะงักมาไทย

บาทแข็งดันแพ็กเกจมาไทยแพง – นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ร่วมกับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือพีทีทีโออาร์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเปิดตัวแคมเปญ “เที่ยวเมืองรอง ความสุขยกกำลัง 2 กับพีทีที บลูการ์ด” ให้สมาชิกบัตรสะสมคะแนนพีทีที บลูการ์ด สามารถนำคะแนนสะสมมาแลกเป็นส่วนลดใช้แทนเงินสดสำหรับการใช้บริการที่พัก เติมน้ำมัน ซื้อสินค้า/ของที่ระลึก/ของฝาก/อาหาร ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาล กระตุ้นการใช้จ่าย ช่วยกระจายรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่น สร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ

“รายได้ท่องเที่ยวในช่วง 4-5 เดือนของปีนี้เพิ่มขึ้นชัดเจน 5-6% คิดเป็นรายได้ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะสามารถกระตุ้นให้คนไทยออกไปเที่ยวเมืองรองมากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือโลว์ซีซั่น คาดจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้ทั้งปีรายได้จากการท่องเที่ยวเมืองรองอยู่ที่ 1.1 ล้านล้านบาท (จากเป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวปีนี้คาดอยู่ที่ 2.21 ล้านล้านบาท เทียบกับรายได้ท่องเที่ยวปี 2561 อยู่ที่ 2.01 ล้านล้าบาท) จากปี 2561 ที่ผ่านมาภาพรวมนักท่องเที่ยวชาวไทยท่องเที่ยวเมืองรอง 88 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5% สร้างรายได้ 230,998.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.35%”

นายยุทธศักดิ์ กล่าวยอมรับว่ากรณีเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อแพ็กเกจท่องเที่ยวของบริษัทนำเที่ยวต่างประเทศที่มาเที่ยวไทยต้องปรับราคาขึ้น 10-20% ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีการทบทวนแผนเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น แต่เชื่อว่าจะเป็นเพียงปัญหาระยะสั้น เพราะประเมินสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงเดือนต.ค. ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ดังนั้น ททท. จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ทั้งปีที่ตั้งเป้าหมายไว้ 44-45 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมีนักท่องเที่ยว 38.27 ล้านคน

นอกจากนี้ ผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากจีนและยุโรปชะลอตัวลง ททท. จึงมองหาตลาดใหม่เข้าทดแทน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมถึงประเทศออสเตรีย เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่มีการวางแผนและซื้อแพ็กเกจมาท่องเที่ยวในไทยแล้วจะยังคงเดินทางมาตามกำหนดการเดิม เพียงแต่อาจจะมีการจับจ่ายใช้สอยลดลงบ้าง

อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งรัฐบาลที่มีความล่าช้าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวแต่อย่างใด เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีความความเชื่อมั่นรัฐบาลไทยหลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว และมั่นใจว่าบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรมว.การท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่ จะสามารถเข้ามาดำเนินนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ทันทีแน่นอน








Advertisement

น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พีทีทีโออาร์ กล่าวว่า บริษัทพร้อมให้บริการสมาชิกที่ถือบัตรพีทีที บลูการ์ดปัจจุบันที่มีมากกว่า 4.5 ล้านราย ซึ่งแคมเปญดังกล่าวจะนำร่องใช้ในพื้นที่ 24 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน แพร่ สุโขทัย ลำปาง น่าน สมุทรสงคราม ราชบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี อุบลราชธานี อุดรธานี นครพนม เลย บุรีรัมย์ นครศรีธรรมราช ตรัง ชุมพร ระนอง สตูล ตราด จันทบุรี และนครนายก คาดจะช่วยขยายฐานลูกค้าสมาชิกบัตรเพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านรายได้ภายในสิ้นปีนี้ เพียงสมาชิกบัตรพีทีที บลูการ์ด ใช้จ่ายในสถานีบริการน้ำมัพีทีที บลูการ์ด สามารถรับสิทธิพิเศษคะแนนสะสม 2 เท่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-25 ส.ค.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน