นายดั๊ก เดอโวส ประธานบริษัทแอมเวย์ทั่วโลก ในฐานะธุรกิจเครือข่ายอันดับหนึ่งของโลกและของไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงทั่วโลกในปี 2559 พบว่ามีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 180,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีอัตราการเติบโต 6-7% ในขณะที่ธุรกิจแอมเวย์ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน ทำให้ยอดขายแอมเวย์ ประเทศจีน ซึ่งมียอดขายอันดับหนึ่งชะลอตัวลงมาก ส่งผลต่อยอดขายของแอมเวย์ทั่วโลกลดลง 7% หรือมีมูลค่าประมาณ 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
โดยที่บริษัทฯ ไม่ได้กังวลต่อยอดขายในจีนที่ลดลงดังกล่าว เนื่องจากเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นในบางประเทศแล้ว และเมื่อเศรษฐกิจจีนดีขึ้น จะมีผลทำให้ยอดขายแอมเวย์ ในจีน กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง ประกอบกับแนวโน้มความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังมาแรง ทำให้ช่วยสนับสนุนแนวคิดของแอมเวย์ ซึ่งบริษัทจะใช้กลยุทธ์แอมเวย์เน็กซ์ ซึ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครายบุคคล
ขณะเดียวกันแผนในระยะ 10 ปีจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการลงทุนด้านเทคโนโลยีไอที โดยใช้งบประมาณมากกว่า 50% ของงบลงทุนทั้งหมด เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินงานภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาช่องทางการสั่งซื้อสินค้าใหม่ๆ ผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ ซึ่งปัจจุบันมีช่องทางนี้มีอยู่แล้ว แต่จะลงทุนพัฒนาให้มีขีดความมารถที่ดีขึ้น ง่ายขึ้น และถือเป็นการเพิ่มเครื่องมือการสั่งซื้อสินค้าให้ดียิ่งขึ้นและให้ลูกค้ามีทางเลือกในการสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ทั้งยังตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้ด้วย ซึ่งโดยปกติการสั่งซื้อสินค้าจะผ่านผู้แทนจำหน่าย หรือซื้อตามสาขา และการสั่งสินค้าทางโทรศัพท์ ซึ่งการสั่งซื้อผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ จะเป็นตัวเสริมทำให้ธุรกิจมีการเติบโตและสามารถหาลูกค้ารายใหม่ได้ง่ายขึ้น ตลอดจนการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านนวัตกรรมต่างๆ ในผลิตภัณฑ์ของแอมเวย์ ไม่ว่าจะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ และเครื่องสำอางอาร์ทิสทรีด้วยเช่นกัน เนื่องจากบริษัทมองว่าเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนในการประกอบธุรกิจของแอมเวย์ทั่วโลกเป็นหลัก
สำหรับธุรกิจแอมเวย์ ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในตลาดสำญที่สร้างยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของแอมเวย์ทั่วโลก รองจาก จีน เกาหลี อเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งยอดขายเมื่อปีที่ผ่านเติบโต 6% ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 3% ภายใต้แผนการเร่งพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดให้เร็วขึ้นเพื่อให้ทันความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาการฝึกอบรมของผู้จำหน่ายโดยจะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ โดยจะเปลี่ยนการฝึกอบรมไปจากรูปแบบเดิมๆ และสุดท้ายจะมุ่งเน้นการใช้สื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้นักธุรกิจแอมเวย์ได้ประกอบธุรกิจได้คล่องตัวขึ้น ง่ายขึ้นในทุกที่ทุกเวลา
