พาณิชย์ระดมกำลังจัดเต็มทุกช่องทางเพื่อเชื่อมโยงตลาดและกระจายผลไม้ ขอความร่วมมือเที่ยวบินในภาคใต้ อนุโลมน้ำหนักผลไม้ที่นำขึ้นเครื่องให้ผู้โดยสารโหลดได้มากขึ้น ประสาน ท่าอากาศยานไทย เพื่อเพิ่มจุดจำหน่ายผลไม้ในสนามบิน

เร่งช่วยกันระบายผลไม้ – นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ผลผลิตผลไม้ภาคเหนือและภาคใต้ กำลังออกสู่ตลาด โดยลำไยภาคเหนือออกสู่ตลาดแล้วประมาณครึ่งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันราคามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เช่น จังหวัดลำพูน ลำไยสดร่วง AA ก.ก.ละ 35 บาท ลำไยสดช่อ เกรด AA ก.ก.ละ 40-42 บาท

ส่วนภาคใต้ ผลผลิตทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง โดยรวมประมาณ 648,088 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 34 โดยเฉพาะมังคุดและลองกองเพิ่มขึ้นร้อยละ 30-60 ออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. 2562 และลองกองจะออกมากเดือนก.ย.-ต.ค. 2562

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินมาตรการหาช่องทางการตลาดเพื่อรองรับผลผลิตผลไม้มาอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับผลไม้ที่มีปริมาณเพิ่มมากในปีนี้ และมีปัญหากระจุกตัว เช่น มังคุด ส่งผลให้เกษตรกรขายได้ราคาลดต่ำลง กรมการค้าภายในร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อช่วยเหลือด้านการตลาด ทั้งการเชื่อมโยงและกระจายผลไม้ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านธงฟ้าประชารัฐ ตลาดกลาง ตลาดต้องชม สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และสนับสนุนให้เกษตรกรมีการซื้อขายผลไม้ล่วงหน้า ในรูปแบบสัญญาข้อตกลง โดยห้างสรรพสินค้าได้ลงนามสัญญาข้อตกลงซื้อผลไม้จากเกษตรกรแล้ว จำนวน 7,864 ตัน ส่งเสริมให้เกษตรกรขยายช่องทางการตลาดในรูปแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การขายทางออนไลน์ การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าผลไม้ตามฤดูกาล รวมทั้ง สนับสนุนเงินชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ให้ผู้ประกอบการ เพื่อรับซื้อผลไม้จากเกษตรกรได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ จะมีการประชาสัมพันธ์และรณรงค์การบริโภคผลไม้ไทยเพิ่มขึ้น โดยขอความร่วมมือหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมท่องเที่ยว โรงเรียน และหน่วยงานราชการ ให้ช่วยบริโภคผลไม้ไทยแทนขนมหวานในมื้ออาหารหลักและอาหารว่างเพิ่มขึ้น รวมทั้งเพิ่มเมนูผลไม้ไทย ในการจัดเลี้ยงและการจัดประชุม

อีกทั้ง ยังได้หารือขอความร่วมมือทุกภาคส่วนเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ โดยจากการหารือทุกห้างสรรพสินค้ามีความพร้อมและต้องการรับซื้อผลไม้จากเกษตรกร รวมทั้งกรมฯ จะมีมาตรการเสริมในการจัดทำมังคุดบรรจุกล่องละ 5 ก.ก. กระจายไปยังร้านธงฟ้าประชารัฐ ตลาดต้องชม ห้างสรรพสินค้า สถานีบริการน้ำมัน ซึ่งขณะนี้มีความต้องการซื้อจำนวนมาก เช่น ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต ยินดีรับซื้อมังคุด จากจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 50 ตัน โดยจะจัดส่งภายในอาทิตย์นี้ และร้านธงฟ้าประชารัฐในหลายจังหวัดจากทุกภาค เช่น พิษณุโลก ลำพูน เชียงใหม่ พิจิตร ลำปาง ตาก ภูเก็ต บุรีรัมย์ สมุทรสาคร อยุธยา มีคำสั่งซื้อมังคุด รวมกว่า 500 ตัน จะจัดส่งภายในสิ้นเดือนก.ค.นี้

และเพื่อให้เกษตรกรมีโอกาสนำผลไม้มาจำหน่ายให้ผู้บริโภคโดยตรง ยังได้ขอความอนุเคราะห์หน่วยงานเอื้อเฟื้อสถานที่ให้เกษตรกรจำหน่ายผลไม้ เช่น สถานที่บริเวณสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง (ปั๊มน้ำมัน) และขอให้พิจารณาการส่งเสริมการขายของปั๊มน้ำมัน โดยใช้ผลไม้ไทยในการส่งเสริมการขายด้วย ซึ่งกรมฯ มั่นใจว่าจากมาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการจะช่วยดึงให้ราคามังคุดปรับตัวสูงขึ้น เกรดคละ ก.ก.ละ 20 บาท และเกรด A-B ก.ก.ละ 40 บาท

นอกจากนี้ จะมีการหารือร่วมกับสายการบิน สำหรับเที่ยวบินในภาคใต้ เพื่อขอความร่วมมืออนุโลมน้ำหนักผลไม้ที่นำขึ้นเครื่อง และ บมจ.ท่าอากาศยานไทย เพื่อเพิ่มจุดจำหน่ายในสนามบิน รวมทั้ง กรมฯ จะมีการจัดกิจกรรมตลาดเฉพาะสินค้าที่ตลาดคลองแห จ.สงขลา และตลาดต้องชม จำนวน 50 แห่ง ตลาดกลางและผลไม้ จำนวน 8 แห่ง และตลาดสดในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล จำนวน 8 แห่ง ในช่วงวันหยุดวันแม่แห่งชาติ เพื่อรณรงค์การบริโภคผลไม้ โดยเชื่อมโยงผลไม้จากแหล่งเพาะปลูก เป้าหมายจำนวน 400 ตันอีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน