‘สมคิด’ ประเดิมเยือนคลัง 1 ส.ค. หลังตั้งรัฐบาลใหม่ คาดเคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ ทันสิ้นเดือนส.ค.นี้ ‘อุตตม’ สั่งประชุมทีมคลังคลอดมาตรการ ใช้งบกลาง 2562 เร่งใช้จ่าย

จ่อเคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ – รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ส.ค. 2562 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมากระทรวงการคลัง เพื่อร่วมให้นโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้น และระยะปานกลางของกระทรวงการคลัง ที่จะมีการออกมาใช้ในปลายเดือนส.ค. และเดือนก.ย.นี้ โดยมาตรการที่ออกมาจะเน้นให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เช่น กลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้มีรายได้น้อย รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยที่ค้าขายไม่ค่อยดี

นอกจากนี้ ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง จะมีการเรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง เพื่อมอบนโยบาย และแบ่งงานการดูแลหน่วยงานต่างกับ รมช.คลัง รวมถึงให้มีการจัดทำนโยบายของกระทรวงการคลังให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล 12 ข้อ และการพิจารณาถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งนายอุตตม ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปเร่งศึกษาออกมาอย่างเร่งด่วน

สำหรับแนวทางการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นจะออกมาใช้เดือนส.ค.นี้ โดยใช้งบกลางปี 2562 ซึ่งเน้นดูแลเศรษฐกิจฐานราก การลดความเหลื่อมล้ำทั้งระบบ โดยเฉพาะการเร่งแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน และการใช้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ช่วยจัดสินเชื่อเอื้ออำนวยแหล่งเงินทุนให้เข้าถึงประชาชน ผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบรายย่อยที่ประสบปัญหาการหารายได้

ขณะที่มาตรการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้กระทรวงการคลังเดินหน้าต่อเช่นกัน พร้อมกับพิจารณาเพิ่มสวัสดิการต่างๆ ให้ในอนาคต นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงการจัดสรรเบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุ เบี้ยความพิการ รวมถึงขยายครอบคลุมไปยังกลุ่มมารดาตั้งครรภ์ และเด็กแรกเกิด เด็กเรียนเรียนดีแต่มีปัญหาด้านรายได้ในครอบครัว

นอกจากนี้ จะมีหารือถึงการปรับปรุงการจัดงบประมาณปี 2563 ให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล เพื่ออัดฉีดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุด เช่น การยกระดับค่าแรงงานแรกเข้าระบบแรงงาน การปรับค่าแรงให้สอดคล้องกับการพัฒนาศักยภาพ ทักษะฝีมือแรงงาน ตลอดจนจะมีการเร่งรัดการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ ลดความแออัดของโรงพยาบาลขนาดใหญ่

ส่วนแผนดูแลเศรษฐกิจในระยะยาว ในส่วนนโยบายกระทรวงการคลัง จะเน้นการดูแลวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด พร้อมกับมีการทบทวนโครงสร้างภาษีใหม่ทั้งระบบ ทั้งในส่วนของอัตราภาษีเงินได้ การกำหนดสิทธิพิเศษทางภาษีของนักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ การปรับโครงสร้างการจัดเก็บรายได้ภาครัฐ และปรับปรุงอัตราภาษีให้เหมาะสม โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีเพื่อรองรับยุคดิจิตอล เพื่อให้เอกชนมีศักยภาพในการแข่งขัน ขณะเดียวกันก็จะนำเทคโนโลยีบิ๊กดาต้าเข้ามาช่วยการบริหารการเงินการคลังให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน