คนกรุง-คนอีสาน ได้ เฮ! ทางหลวงทุ่ม 4 หมื่นล้าน สร้างโทลล์เวย์ต่อขยายจากรังสิตยาวไปถึงบางปะอิน เชื่อมเข้ามอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช ด้วย ระยะทาง 18 ก.ม. เก็บ 60 บาทตลอดเส้นทาง เปิดใช้ปี’68

สร้างโทลล์เวย์ต่อขยาย – นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยภายหลังงานสัมมนารับฟังความเห็นจากภาคเอกชน โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ช่วงรังสิต-บางปะอิน ว่า ทล. เตรียมใช้เงินลงทุน 39,956 ล้านบาท ในการก่อสร้างทางยกระดับ เริ่มจากปลายทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์บริเวณทางแยกต่างระดับรังสิตใกล้กับโรงกษาปณ์ ไปจนถึงบริเวณต่างระดับบางปะอิน รวมระยะทาง 18 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และอ.บางปะอิน อำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และจะสามารถเชื่อมต่อโดยตรงเข้าสู่ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-โคราช ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหารถติดขัดบนถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิตรวมทั้งยังเป็นโครงข่ายทางยกระดับที่เชื่อมต่อการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้โดยตรง ช่วยให้การเดินทางของประชาชนมีความคล่องตัว สะดวก รวดเร็วมากขึ้นด้วย

สำหรับตัวเลขงบลงทุนดังกล่าวเป็นการคิดบนสมมุติฐานระยะเวลาสัมปทานไม่เกิน 33 ปี ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (อีไออาร์อาร์) ที่ 13% เบื้องต้นจะเปิดในเอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบพีพีพี แต่ยังไม่สรุปว่าจะเป็น แบบ Net Cost หรือ Gross Cost เพราะกำลังศึกษาขั้นสุดท้าย แต่จะเปิดประมูลเป็นสัญญาเดียว โดยรวมงานก่อสร้าง งานติดตั้งระบบและงานบริหารจัดเก็บค่าผ่านทาง

“คาดว่าจะเสนอผลศึกษาขั้นสุดท้ายให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบได้สิ้นปีนี้ เปิดประมูลปลายปี 2563 ได้ตัวผู้ชนะปี 2564 เริ่มก่อสร้าง 2565-67 และเปิดให้บริการปี 2568 เบื้องต้นจะเก็บค่าผ่านทางสูงสุดตลอดสาย 60 บาทตลอดสาย เฉลี่ยกิโลเมตรละ 3.33 บาท โดยปีแรกจะมีการใช้ทางประมาณ 2 หมื่นคนต่อวัน มีรายได้ปีละ 423 ล้านบาท และในปี 2597 ประมาณรถจะเพิ่มเป็นวันละ 6.8 หมื่นคัน เก็บค่าผ่านได้เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 3 พันล้านบาท”

นายอานนท์กล่าวว่า ตลอดสายทางจะมีจุดขึ้น-ลง จุดเชื่อมต่อ จำนวน 8 แห่งคือ 1. จุดเชื่อมต่อ บริเวณด่านรังสิต ใกล้กับโรงกษาปณ์ เพื่อเชื่อมไปยังดอนเมืองโทลล์เวย์ 2. จุดขึ้นล-ลง บริเวณด่านรังสิต 2 ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 3. จุดขึ้น-ลง บริเวณด่านคลองหลวง ใกล้แยกต่างระดับคลองหลวง 4. จุดขึ้น-ลง บริเวณด่าน ม.ธรรมศาสตร์ 5. จุดขึ้น-ลง บริเวณด่านนวนคร ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมนวนคร 6. จุดขึ้น-ลง บริเวณด่านวไลยอลงกรณ์ ใกล้มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลลงกรณ์ 7. จุดขึ้น-ลง บริเวณด่านประตูน้ำพระอินทร์ บริเวณตลาดประตูน้ำ 8. จุดเชื่อมต่อ บริเวณด่านบางปะอิน เชื่อมต่อเข้ามอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-โคราช

นอกจากนี้ ทล. ยังได้ให้ที่ปรึกษาศึกษาเพิ่มเติมด้วยว่าหากจะมีการให้สัมปทานทางยกระดับเส้นทางใหม่ เพียง 15 ปี เพื่อให้อายุสัมปทานสิ้นสุดลงพร้อมดอนเมืองโทลล์เวย์เส้นทางเก่าระยะทาง 28 กิโลเมตร ที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 2577 ควรจะเปิดให้มีการพีพีพีในรูปแบบใดจึงจะมีความเหมาะสม เนื่องจากกรมมีแนวคิดจะปรับปรุงและซ่อมแซมโทลล์เวย์เส้นเก่า และต่อขยายอีกครั้งในอนาคต เพื่อปรับให้มีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งยังทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการในอนาคต เพราะสามารถนำเส้นเก่าและเส้นใหม่มาบวกรวมเป็นระยะทางต่อเนื่อง 46 กิโลเมตรมาเปิดประมูลพร้อมกันได้ตลอดเส้นทางอีกด้วย

“หากเราต้องการให้สัมปทานเส้นใหม่แค่ 15 ปี เพื่อให้หมดอายุสัมปทานพร้อมกับเส้นเก่า ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่สั้น อาจไม่จูงใจนักลงทุนให้เข้ามาร่วมทุน ดังนั้นอาจจะต้องใช้พีพีพีในรูปแบบ Gross Cost ภาครัฐจัดเก็บรายได้ทั้งหมด และชดเชยค่าตอบแทนให้บริษัทเอกชนตามค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินงาน (Full Operating Cost) แบบคงที่ (Fixed Payments) เพื่อดึงดูดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน หากเราสามารถทำให้อายุสัมปทานเสน้เก่า และเสน้ใหม่หมดพร้อมกันได้ โทลล์เวย์ ระยะทางรวม 40 กิโลเมตร จะกลับมาเป็นของกรม ซึ่งในอนาคตกรมก็สามารถที่จะกำหนดอัตราการจัดเก็บค่าผ่านทางได้เอง และมีแนวโน้มที่จะลดลงแน่นอน แต่ต้องรอผลการศึกษาที่เหมาะสมก่อน”

อย่างไรก็ตาม โครงการก่อสร้างทางต่อขยายครั้งนี้จะไม่ได้รับผลกระทบกับกรณีค่าโง่ทางด่วน สายบางปะอิน-ปากเกร็ด ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ถูกผู้รับสัมปทาน บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีอีเอ็ม ฟ้องร้องกรณีสร้างทางแข่งขัน เนื่องจากทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด จะหมดอายุสัมปทานในปี 2567 ขณะที่ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ จะเปิดให้บริการในปี 2568 ทั้งนี้ ในการเปิดรับความเห็นวันนี้มีเอกชนจากไทยและต่างประเทศจำนวนมากมาเข้าร่วมรับฟังการนำเสนอโครงการ อาทิ บีทีเอสกรุ๊ป, บีอีเอ็ม, ดอนเมืองโทลล์เวย์, ยูนิค ส่วนบริษัทต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส จีน เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน