นายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจอาหารแช่แข็งและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ทียู เปิดเผยว่า ขณะนี้ทียูพร้อมรุกตลาดผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็ง โดยการสร้างแบรนด์ของตนเองภายใต้ชื่อ คิวเฟรช เป็นครั้งแรก เพื่อรองรับตลาดในประเทศ หลังเห็นแนวโน้มว่าตลาดอาหารทะเลแช่แข็งที่มีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท มีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี และมีทิศทางการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากผู้บริโภคคนไทยที่หันมารับบริโภคอาหารทะเลมากขึ้น เป็นไปในทิศทางเดียวกับทั่วโลกที่การบริโภคอาหารทะเลยังเติบโตดี เพราะสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในการรักสุขภาพ

“ทียู เป็นผู้นำตลาดอาหารทะเลของโลก มีแหล่งวัตถุดิบจากทั่วโลกใน 17 โรงงานใน 13 ประเทศทั่วโลก โดยทียูยังเป็นผู้ผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศมาเป็นเวลายาวนานเกือบ 40 ปี ทั้ง สินค้าอาหารทะเลแช่แข็ง อาหารทะเลแช่เย็น อาหารทะเลแปรรูปพร้อมทาน และติ่มซำ และปีนี้ได้หันมาสร้างแบรนด์ของตนเองด้วยการเปิดตัวแบรนด์ คิวเฟรช รองรับกลุ่มลูกค้าคนไทย ทั้งกลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยวางจุดขายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพ นำเข้า 30-40% และในประเทศอีก 60-70% ในขณะที่ราคาจำหน่ายเข้าถึงได้ง่าย อย่าง ล็อบสเตอร์จำหน่ายในราคา 500-600 บาท จากปกติราคา 1,000 บาทขึ้นไป”

สำหรับช่องทางจำหน่ายสินค้า คิวเฟรช จะเน้นร้านค้าปลีก อย่างซูเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ตกว่า 100 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และมีแผนจะเพิ่มร้านค้าปลีกชั้นนำให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ภายใน 2 ปี พร้อมกันนี้ยังจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ ร้านออนไลน์ คิวเฟรชช็อป (www.qfreshshop.com) และมีบริการส่งถึงที่ภายใน 24 ชั่วโมง เริ่มในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อนในปีนี้ หลังจากนี้ในอีก 1 ปีจะขยายจัดบริการส่งถึงที่ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ วางงบประมาณทำตลาดไว้ 50 ล้านบาทในปีแรก และยอดขายของปีแรกนี้ ตั้งเป้าไว้ที่ 300 ล้านบาท และภายใน 5 ปี มียอดขาย 1,000 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติมโตปีละ ไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี

นายฤทธิรงค์ กล่าวว่า แผนการลงทุนของทียูในปีนี้ มีทั้งการลงทุนใหม่และการเข้าไปซื้อกิจการในต่างประเทศ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาอยู่ แต่งบลงทุนอาจจะน้อยกว่าปีที่แล้วที่ใช้ไป 25,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ในธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้วปีนี้ต้องมุ่งให้มีการเติบโตมากขึ้น เพื่อผลักดันให้ปีนี้ทียูมีอัตราการเติบโตของราได้ที่ 12-15% หรือมียอดขายประมาณ 1.5 แสนล้านบาท จากปีที่แล้วมีอัตราเติบโต 7.3% มีรายได้ที่ 134,000 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน