รายงานพิเศษ

องค์การอนามัยโลกออกมาระบุว่าเมื่อปี 2558 ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงถึง 36.2 คน/ประชากร 1 แสนคน สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก และมีสถิติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สาเหตุหลักเกิดจากพฤติกรรมคนขับ อาทิ ขับรถเร็ว เมาขับ ขับรถเกินเวลาผักผ่อน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์วันหยุดยาว ที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอุบัติเหตุจะยิ่งพุ่งสูง

ช่วงสงกรานต์ปี 2559 (11-17 เม.ย.) มีจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 1,580 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 280 ครั้ง ยอดบาดเจ็บ 2,030 คน เพิ่มขึ้น 787 คน และเสียชีวิต 274 คน เพิ่มขึ้น 35 คน

สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากขับรถเร็ว รองลงมาคือเมา-หลับใน สภาพกายภาพทางถนนอันตราย ไม่สวมหมวกและเข็มขัดนิรภัย

กระทรวงคมนาคมจึงกำหนดให้ปี 2560 เป็นปีแห่งความปลอดภัยด้านคมนาคม ภายใต้นโยบาย One Transport โดยระดมสมองเพื่อหามาตรการลดอุบัติเหตุทางถนนเพื่อนำมาใช้ในเทศกาลสงกรานต์ปี 2560

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ระบุว่า ปีนี้กระทรวงคมนาคมจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกการเดินทางช่วงระหว่างวันที่ 5-18 เม.ย. 2560 เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย ตั้งเป้าลดจำนวนอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บอย่างน้อย 5% เมื่อเทียบกับสงกรานต์ปี 2559 และต้องไม่มีผู้เสียชีวิตจากระบบขนส่งสาธารณะ

นายอาคมกล่าวว่า สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้นอกจากทำแผนป้องกันเหตุแล้ว ยังจัดรถให้มีจำนวนเพียงพอกับความต้องการ โดยคาดการณ์ว่าสงกรานต์ปีนี้จะมีประชาชนเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะราว 35.6 ล้านคน (ไป-กลับ) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 20.3 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 75%

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระยะเวลาในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการความปลอดภัยปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 14 วัน ขณะที่ปีก่อนมีระยะเวลาเพียง 11 วัน (8-18 เม.ย.) และมีเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

แผนปฏิบัติการป้องกันอุบัติเหตุ แบ่งออกเป็น มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ด้านยานพาหนะและผู้ขับขี่ การเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย การตั้งด่านตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

การตรวจความพร้อมสภาพตัวรถและพนักงานขับรถ กำหนดให้รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องเข้า-ออกสถานีขนส่งหรือจุดที่กำหนดไว้เท่านั้น

ตรวจจับความเร็วด้วยระบบ GPS Tracking

ขอความร่วมมือสมาคมขนส่งสินค้า หลีกเลี่ยงการใช้รถบรรทุกในช่วงเทศกาล ห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถและในสถานีขนส่งผู้โดยสาร

ด้านความปลอดภัยทางถนน เช่น ตรวจสอบสภาพความพร้อมของทาง ป้ายจราจร เครื่องหมายควบคุม สัญญาณไฟ และแก้ไขพื้นที่จุดเสี่ยง/จุดอันตราย ทางร่วมทางแยก จุดกลับรถ จัดช่องทางพิเศษ ทางเลี่ยงทางลัด ป้ายบอกและแนะนำเส้นทาง เป็นต้น

ด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ขับขี่เปิดไฟหน้ารถช่วงเวลากลางวันเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นของผู้ร่วมใช้ทาง เคารพกฎจราจรสวมหมวกนิรภัยและคาดเข็มขัด ไม่ขับรถเร็ว

การสอบสวนอุบัติเหตุเชิงลึก กรณีเกิดอุบัติเหตุใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บเกิน 5 คน หรือได้รับความสนใจจากสังคม

มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางน้ำ เข้มงวดการรักษาความปลอดภัยท่าเรือ การสวมเสื้อชูชีพ จัดเจ้าหน้าที่และเรือตรวจการณ์เจ้าท่าเพื่อควบคุมดูแล

มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางราง ห้ามผู้โดยสารใช้บันไดหรือข้อต่อของขบวนรถไฟเป็นที่โดยสารเด็ดขาด

และมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางอากาศ เข้มงวดการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน อาคารผู้โดยสาร ตรวจสอบควบคุมการจราจรทางอากาศ เครื่องบินและอุปกรณ์ตามมาตรฐานสากล

ส่วนแผนอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชน ประกอบด้วย

จัดตั้งจุดให้บริการประชาชนระหว่างการเดินทาง ทางถนน 665 จุด และทางน้ำ จำนวน 35 จุด รวม 718 จุดทั่วประเทศ เพื่อให้บริการที่พักผ่อน น้ำดื่มห้องสุขา ผ้าเย็นและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงบริการข้อมูลการเดินทาง และบริการตรวจสภาพรถ

การให้บริการฟรีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 ได้แก่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพให้บริการรถ Shuttle Bus และรถเมล์ฟรี จำนวน 2 เส้นทาง (วันที่ 5-10 เม.ย. และ 13-16 เม.ย.) คือ สาย 3 วงกลมอู่หมอชิต-สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร และสาย 54 อู่หมอชิต 2-อนุสาวรีย์ชัยฯ

กรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี) และหมายเลข 9 (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ตอนบางปะอิน-บางพลี) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์)

ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 11 เม.ย. 2560 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 18 เม.ย. 2560

การให้บริการขนส่งสาธารณะนั้น ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบจัดเตรียมและเพิ่มจำนวนรถโดยสารประจำทาง/ไม่ประจำทาง เพิ่มจำนวนตู้โดยสารรถไฟและเที่ยววิ่ง เพิ่มเที่ยวบินเสริมพิเศษ เพื่อรองรับปริมาณการเดินทาง ระหว่างวันที่ 5-18 เมษายน 2560 รวม 14 วัน จำนวน 521,996 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ 35,624,400 คนต่อเที่ยว เพิ่มขึ้น 75.40% จากเทศกาลสงกรานต์ปี 2559 ที่มีประชาชนใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 20,309,862 คนต่อเที่ยว

นอกจากนี้ ยังอำนวยความสะดวกด้านโครงข่ายถนนบำรุงรักษาทางหลวงและทางหลวงชนบทให้อยู่ในสภาพดี จัดตั้งศูนย์ประสานงานและจุดให้บริการ

ตรวจสอบและแก้ไขพื้นที่จุดเสี่ยง จุดอันตราย จุดวิกฤตด้านการจราจร และจุดที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซม

การจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าเรือ สถานีขนส่ง ท่าอากาศยานและอาคารผู้โดยสาร สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า

รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลการจราจร ให้บริการข้อมูลข่าวสารผ่านสายด่วน หรือศูนย์ปลอดภัยคมนาคม Call Center 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง

จัดตั้งศูนย์ประสานงานความปลอดภัยคมนาคม และศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงคมนาคม (MOTOC) เพื่อรับแจ้งเหตุและช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง

ปีนี้ยังดำเนินมาตรการ ‘7+7+7’ จัดกิจกรรมสำหรับสร้างการเดินทางปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560 ในช่วงวันที่ 7-24 เม.ย. เพื่อร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ภายใต้แคมเปญ “ขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย”แบ่งการจัดกิจกรรมเป็น 3 ส่วน

ช่วง 7 แรก ระหว่างวันที่ 4-10 เม.ย. 2560 เน้นที่คน ด้วยการเริ่มสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้อยู่ในใจคนไทยทุกคน จัดกิจกรรม “สานสัมพันธ์สัญญาใจ” เพื่อสื่อสัญญาใจร่วมปฏิบัติให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทาง

เขียนข้อความบนกระดาษแล้วนำไปติดบนกระดานที่จัดเตรียมไว้ ณ ปั๊มที่เป็นจุดพักรถ

กิจกรรม “สานสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น สร้างความปลอดภัยทางถนน” โดยขอความร่วมมือบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย 4,500 แห่ง ให้พนักงานกว่า 800,000 คน เขียนข้อความ “จะกลับมาอย่างปลอดภัย ด้วยการขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย”

ช่วง 7 กลาง ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 2560 เน้นที่ถนนและรถ จัดคาราวานความปลอดภัยภายใต้นโยบาย One Transport ดำเนินการตามมาตรการป้องกันอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกการเดินทางอย่างเข้มข้น

และช่วง 7 หลัง ระหว่างวันที่ 18-24 เม.ย. เน้นที่การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน การประเมินผลกำหนดมาตรการในช่วงต่อไป

แอ๊กชั่นแพลนป้องกันอุบัติเหตุของกระทรวงคมนาคมปีนี้ จะช่วยลดผลกระทบความสูญเสียด้านชีวิตและทรัพย์สินให้กับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้มากน้อยแค่ไหน…มารอดูกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน