แพทย์หญิงเจรียง จันทรกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลในเครือบางปะกอก เปิดเผยว่า หลังจากได้เข้าซื้อหุ้นในโรงพยาบาลปิยะเวท จากกลุ่มกระทิงแดง เมื่อปี 2559 ขณะนี้เครือโรงพยาบาลบางปะกอกเข้ามาบริหารงานเป็นระยะเวลา 1 ปี ได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ และพันธกิจของเครือโรงพยาบาลบางปะกอก ที่ต้องการเป็นโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ และย้ำให้ปิยะเวท เป็นมืออาชีพด้านการแพทย์ครบวงจร เพื่อรองรับการแข่งขันในธุรกิจโรงพยาบาลที่มีสูง
ทั้งนี้ จึงเดินหน้าตามแผนเชิงรุกพัฒนานวัตกรรมด้านการบริการเข้าสู่โรงพยาบาล 4.0 ด้วยการนำร่องศูนย์เวชศาตร์การเจริญพันธุ์ ศูนย์ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด และศูนย์บริหารผู้ป่วยต่างชาติ พร้อมกันนี้ยังได้ขยายพื้นที่เพิ่มเพื่อรองรับจำนวนเตียงคนไข้ให้เพิ่มขึ้นเป็น 200 เตียง ภายใต้งบลงทุนรวม 200 ล้านบาท เพื่อรองรับคนไข้ทั้งคนไทยและต่างประเทศ ให้เพิ่มขึ้น 10-20% จากปัจจุบันสัดส่วนคนไข้คนไทย 50% และต่างชาติอยู่ที่ 50% โดยมีเป้าหมายขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน และแถบตะวันออกกลางให้ได้มากขึ้น
ขณะเดียวกันมีแผนจะสร้างศูนย์เฮ็ลธแคร์ดูแลผู้สูงอายุ เพื่อรองรับประเทศไทยที่กำลังก้าวไปสู่สังคมผู้สูงอายุในอนาคต โดยกำลังอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบในต่างประเทศ ทั้ง ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย จีน และอเมริกา นำให้เหมาะสมกับประเทศไทย ซึ่งจะสรุปได้รูปแบบได้ชัดเจนในปี 2561 และถ้าพร้อมจะดำเนินทันที รายละเอียดเบื้องต้นมีแผนจะไปสร้างที่จังหวัดเชียงใหม่ และภูเก็ตเพราะมีพื้นที่บางส่วนแล้ว และน่าจะใช้พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ คาดว่าต้องใช้ลงทุน 200-300 ล้านบาท โดยพื้นที่ดังกล่าวจะสร้างให้ใกล้โรงพยาบาลเพื่อจะดูแลได้สะดวก และสนามกอล์ฟ เพราะเป็นสถานที่ที่ผู้สูงอายุชื่นชอบ
ปัจจุบันโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก ประกอบด้วย โรงพยาบาลบางปะกอก 1 ที่สุขสวัสดิ์ บางปะกอก 3 พระประแดง บางปะกอก 8 อยู่ถนนกาญจนาภิเษก โรงพยาบาลบางประกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล พระราม 2 และ ปิยะเวท โดยปิยะเวท และโรงพยาบาลบางประกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล จะเป็นโรงพยาบาลหลักที่สร้างรายได้ สำหรับปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ 1,640 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีที่แล้ว
