นายวีรศักดิ์ ศุภประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนมี.ค. 2560 อยู่ที่ระดับ 124.46 สูงสุดในรอบ 1 ปีเทียบกับเดือนเม.ย. 2559 อยู่ที่ระดับ 101.83 คิดเป็นอัตราขยายตัวจากเดือนก.พ. 2560 ที่อยู่ระดับ 111.00
ทั้งนี้ แม้เอ็มพีไอเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนจะลดลง 0.5% จากระดับ 125.12 เนื่องจากความผันผวนจากค่าเงินบาทที่อาจทำให้ผู้ประกอบการมีความเสี่ยงด้านต้นทุนสูงขึ้น แต่ไตรมาส 1/2560 (ม.ค.-มี.ค.) ยังขยายตัวได้ 0.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตได้ดีตามความต้องการในตลาดโลก
“ดูแนวโน้มทิศทางจากไตรมาสแรกแล้วเชื่อว่าดัชนีเอ็มพีไอไตรมาส 2 น่าจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้ หากไม่มีปัจจัยลบจากเหตุความไม่สงบในต่างประเทศ โดยน่าจะเห็นเอ็มพีไอเป็นบวกได้ตั้งแต่เดือนเม.ย.นี้ จากอุตสาหกรรมหลายสาขาที่กลับมาเป็นบวกได้ เช่น ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ เนื้อไก่แช่แข็ง ตามเศรษฐกิจและการค้าของโลกมีแนวโน้มดีขึ้นทั้งสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย ประกอบกับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่จะเริ่มเห็นเม็ดเงินลงทุนจริงช่วงไตรมาส 2/2560 ทำให้ สศอ. มองว่าเอ็มพีไอปี 2560 น่าจะขยายตัวได้ดีกว่าเป้าหมายที่ปัจจุบันคาดไว้ 0.5-1.5% และผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรมทั้งปีน่าจะโตกว่า 1-2%”
ในส่วนของอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมี.ค. 2560 ที่ 67.09% แม้จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีอัตรา 68.16% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 59.97% สอดคล้องกับการนำเข้าวัตถุดิบไม่รวมทองคำที่ขยายตัว 18.5% จากการนำเข้าผ้าผืน ด้าย และเส้นใย เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ทำจากพลาสติก เหล็ก เหล็กกล้า และส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และสูงสุดในรอบ 29 เดือนจากเดือนต.ค. 2557 ที่ขยายตัว 24.24%
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นสัญญาณดีที่เริ่มเห็นหลายอุตสาหกรรมมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมเหล็กขยายตัว 9.01% ที่ได้รับคำสั่งซื้อเพื่อใช้ในงานโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของภาครัฐ และผลจากมาตรการตอบโต้การนำเข้า (เอดี) ของกระทรวงพาณิชย์ที่ลดปริมาณเหล็กน้ำเข้าราคาถูกได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเนื้อไก่แช่แข็งยังขยายตัว 7.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการจำหน่ายในประเทศและการส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แช่แข็งและแช่เย็นขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องในระยะต่อไป อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ ขยายตัว 32.66% ที่มีคำสั่งซื้อกลับเข้ามาหลังจากชะลอตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดหลัก เช่น สหรัฐ ฮ่องกงเพิ่มขึ้น เป็นต้น
