เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร. มีมติปรับเพิ่มคาดการณ์ส่งออกไทยปี 2560 มาอยู่ที่ 2-3.5% จากเดิมคาดไว้ที่ 1-3% หลังการส่งออกไตรมาสแรกของปีออกมาดีกว่าที่คาด โดยเป็นผลจากราคาและปริมาณการส่งออกที่สูงขึ้น ประกอบกับแรงกดดันเงินเฟ้อก็คลายตัวลงจากราคาน้ำมันที่คลายตัวลงจากราคาน้ำมันที่ลดลง

“จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ดีกว่าคาด ส่งผลบวกต่อการส่งออก กกร. จึงมองว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก แต่ยังคงต้องติดตามปัจจัยต่างๆ ที่จะมีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจอีกครั้ง ที่ประชุมจึงยังคงอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไว้ที่ 3.5-4% ซึ่งหากจีดีพีและการส่งออกเติบโตไปในทิศทางเดียวกันที่ดีต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าจะมีการลงทุนใหม่จากภาคเอกชนเกิดขึ้นตามมา”

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสถานการณ์ความไม่สงบในคาบสมุทรเกาหลี ขณะนี้น่าจะส่งผลด้านบวกต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยมากกว่าด้านลบ เพราะจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนและประเทศอื่นที่จะเดินทางไปเที่ยวในเกาหลีใต้ หันมาเที่ยวในประเทศกลุ่มอาเซียนโดยเฉพาะประเทศไทยแทน อย่างไรก็ตาม คงต้องตามสถานการณ์หากมีความรุนแรงจะส่งผลกระทบต่อภาคการค้าทั่วโลกแน่นอน

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงทิศทางการลงทุนภาคเอกชนว่า ขณะนี้ภาคเอกชนยังอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน เชื่อว่าจะค่อยๆ ทยอยมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป โดยเฉพาะหากการส่งออกขยายตัวเป็นบวก เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีต่อเนื่อง เชื่อว่าจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นตามมา

“ขณะนี้ยังไม่เกิดการลงทุนใหม่ๆ เพราะผู้ประกอบการกำลังปรับปรุงกระบวนการผลิตไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 และขยายกำลังการผลิตให้เต็มศักยภาพเป็นหลัก ทำให้การยื่นคำขอให้สิทธิประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไม่หวือหวามากนัก แต่คาดว่าในอนาคตจะมีการยื่นคำขอบีโอไอมากขึ้นแน่นอน เพราะมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายต้องใช้เวลาศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนลงทุน”

สำหรับข้อเสนอการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 410 บาท/วันนั้น ส่วนตัวเห็นว่าจริงๆ แล้วทุกวันนี้ค่าจ้างของแรงงานไทยก็สูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำอยู่แล้ว ดังนั้นหากปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นภาระจะตกอยู่กับผู้ประกอบการและสุดท้ายจะส่งผ่านไปที่ผู้บริโภค

“หากปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้น โดยไม่มีการศึกษาที่ชัดเจนถึงความเหมาะสม และไม่เป็นไปตามข้อมูลพื้นฐาน จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการหลายจังหวัดที่ไม่มีความพร้อม เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จำเป็นต้องหารือร่วมกันทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เฉพาะแค่การหารือภายในคณะกรรมการไตรภาคีเพียงอย่างเดียว”นายพจน์ กล่าว

ส่วนกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ โทรศัพท์สายตรงถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั้น ส่วนตัวเห็นว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 4-8 ปี สะท้อนความเชื่อมั่นในสายตาชาวต่างชาติที่มีต่อรัฐบาลไทย

นายกลินทร์ สารสิน ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีหากไทยและสหรัฐจะมีการพูดคุยกัน ซึ่งน่าจะหารือถึงเรื่องความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยปัจจุบันสินค้าที่ไทยส่งออกไปสหรัฐ 40% เป็นสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่สหรัฐเข้ามาลงทุนผลิตในไทยแล้วส่งกลับไปสหรัฐ ส่วนอีก 60% จะเป็นยางรถยนต์และอัญมณี เพราะสหรัฐมองว่าไทยมีศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ทำให้สหรัฐที่เคยมีท่าทีจะใช้มาตรการกีดกันสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐก่อนหน้านี้น่าจะผ่อนคลายลงด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน