กรมชลประทาน เผยสถานการณ์น้ำในอ่างฯ มีน้อย พร้อมเร่งผลักดันค่าความเค็มต่อเนื่อง – ขอความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนใช้น้ำตามแผน อย่างประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุด

กรมชลฯ เผยน้ำในอ่างฯ มีน้อย – นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ทั่วประเทศ ว่า ปัจจุบัน มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกัน 46,390 ล้านลูกบากส์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 61% ของความจุเก็บกักรวมกัน โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ 22,565 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 43% ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกัน 10,875 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 44% ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 4,179 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 23% ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน

ทั้งนี้ ในส่วนของค่าความเค็มในลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนที่มีค่าความเค็มเพิ่มสูงขึ้น หลังน้ำทะเลหนุน กรมชลประทาน ยังคงเร่งบริหารจัดการน้ำโดยดำเนินการลำเลียงน้ำจากแม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำป่าสัก เพื่อช่วยผลักดันค่าความเค็มออกสู่อ่าวไทยตามแผนฯ ที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2563 แม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีประปาสำแล วัดได้ 0.23 กรัมต่อลิตร แม่น้ำท่าจีน ที่สถานีปากคลองจินดา วัดได้ 0.24 กรัมต่อลิตร ส่วนแม่น้ำปราจีน-บางปะกง ที่สถานีปราจีนบุรี วัดได้ 0.07 กรัมต่อลิตร และแม่น้ำแม่กลอง ที่สถานีปากคลองดำเนินสะดวก วัดได้ 0.16 กรัมต่อลิตร

นอกจากนี้ กรมได้ดำเนินการบริหารจัดการน้ำตามแผนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความเสถียรภาพและความมั่นคงด้านน้ำ พร้อมจัดเตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำ รถยนต์บรรทุกน้ำ และเครื่องจักกลอื่นๆ รวม 2,175 หน่วย อาทิ เครื่องสูบน้ำ 1,851 เครื่อง รถบรรทุก 324 คัน กระจายอยู่ตามสำนักงานชลประทาน และพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนให้มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนใช้น้ำตามแผน อย่างประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุด หากประชาชนที่ประสบกับปัญหาภัยแล้งหรือขาดแคลนน้ำ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากโครงการชลประทานในพื้นที่ได้ตลอดเวลา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน