นายพฤทธิ์ บุปผาคำ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) หรือ อีลิทการ์ด เปิดเผยว่า ครึ่งปีแรก 2560 (ต.ค. 2559-มี.ค. 2560) อีลิทการ์ด มีรายได้รวม 233 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5% สูงกว่าเป้าที่วางไว้ที่เติบโต 15% หากเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนรายได้เพิ่มขึ้น 48% ทั้งปีคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 560 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 40% จากเป้ารายได้ทั้งปี 400 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกบริษัทมีสมาชิกใหม่จำนวน 412 ราย เพิ่มขึ้น 61% จากเป้าหมาย 678 ราย ส่งผลให้มีสมาชิกรวม 4,348 ราย โดย 6 กลุ่มประเทศสมาชิกอันดับต้นๆ ได้แก่ อังกฤษ จีน สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และบังคลาเทศ

ทั้งนี้ รายได้ที่คาดว่าจะเติบโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ มาจาก 2 ส่วน คือ 1.การแต่งตั้ง บริษัท เฮนลีย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส เป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งบริษัท เฮนลีย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส มีสาขาทั่วดลกประมาณ 28 แห่ง จะเพิ่มยอดขายใน 6 เดือนหลังของปีได้ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มขึ้นของช่องทางจำหน่ายจากตัวแทนในต่งประเทศเป็นการเพิ่มสาขา แต่หากรวมตัวแทนเก่าๆ และสำนักงานใหญ่ในไทย จะมีสาขาจำหน่ายทั่วโลก 50 แห่ง

2.การเพิ่มสินค้าใหม่จำนวน 4 ตัวคือ 2.1.บัตร Elite Family Excursion ราคา 8 แสนบาท อายุบัตร 5 ปี เพื่อการเข้าออกในประเทศไทยระยะสั้น เหมาะกับกลุ่มครอบครัวโดยเฉพาะ ด้วยราคาพิเศษสำหรับ 2 ท่านเป็นต้นไป เจาะกลุ่มนักธุรกิจ ครอบครัวที่ลูกศึกษาในไทย หรือผู้ที่เข้ามาพักผ่อนระยะสั้นๆ เป็นครอบครัว 2.2 บัตร Elite Family Alternative ราคา 8 แสนบาท อายุ 10 ปี เป็นบัตรที่เหมาะทั้งมาเดี่ยวและมาเป็นครอบครัว ในการพำนักระยะยาว เหมาะกับผู้อยู่อาศัยระยะยาว ไม่ว่าจะทำงาน หรือพักผ่อน

2.3 บัตร Elite Privilege Access ราคา 1 ล้านบาท อายุบัตร 10 ปี อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการอาศัยในประเทศไทยในระยะยาว ไม่ว่าจะมาเดี่ยวหรือมาเป็นครอบครัว และมีการเดินทางเข้าออกบ่อยครั้ง และ 2.4 บัตร Elite Superiority Extension ราคา 1 ล้านบาท อายุบัตร 20 ปี สำหรับผู้ต้องการอาศัยในประเทศไทยระยะยาวโดยไม่ต้องกังวลใจ เหมาะกับกลุ่มเกษียณอายุ หรือผู้ที่ต้องการพำนักในประเทศไทยในระยะยาว

อีลิทคาร์ดมีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนขณะนี้กระแสเงินสดที่ไว้เป็นสภาพคล่องประมาณ 600 ล้านบาท มีรายได้สุทธิหลักหักค่าใช้จ่ายประมาณ 20 ล้านบาททุกเดือน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ในอนาคตอันใกล้อาจมีการพิจารณาคืนเงินที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ให้มเสริมสภาพคล่องประมาณ 200 ล้านบาท ให้กับ ททท.

“หลังจากเปิดตัวบัตรElite Family Excursion มีต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาเป็นสมาชิก โดยเฉพาะสมาชิกเด็ก ที่มีอายุประมาณ 2 ขวบ เข้ามาเป็นสมาชิกจำนวนมาก และเชื่อว่าอนาคตจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น”

นายพฤทธิ์ กล่าวว่า ปีนี้ อีลิทการ์ด มีแผนโรดโชว์ร่วมกับเฮนลีย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส หลังจากเปิดตัว ที่ สิงคโปร์ และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ และยังมีแผนจะไปโรดโชว์ร่วมกับ ททท. ที่ประเทศญี่ปุ่น และเฮนลีย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์สฯ ที่ประเทศเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ และฮ่องกง ซึ่งจากความร่วมมือดังกล่าว ทางเฮนลีย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์สฯ ได้ตั้งเป้ายอดขายบัตรฯ ปีแรกไว้ที่ 200 ล้านบาท ปีที่ 2 จำนวน 300 ล้านบาท ปีที่ 3 จำนวน 400 ล้านบาท หากเป็นไปตามเป้านี้ ในอนาคตรายได้ของไทยแลนด์ อีลิทคาร์ด จะอยู่ที่ประมาณปีละ 1,000 ล้านบาท และเชื่อว่าในระยะเวลาไม่นานไทยแลนด์อีลิทคาร์ดจะสามารถสร้างรายได้ถึงปีละ 1,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน