บินไทย รื้อแผนจัดซื้อ 38 ลำ เปลี่ยนใช้วิธีแลกเครื่องเก่ากับใหม่ เร่งถกกรมบัญชีกลางแก้ระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง ระบุช่วยลดปัญหาค่าเสื่อจากกรณีเครื่องปลดระวางขายไม่ออก คาดเสนอแผนจัดหาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณามี.ค. นี้

บินไทย รื้อแผนจัดซื้อ – นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดทำแผนจัดหาเครื่องบินใหม่จำนวน 38 ลำ วงเงิน 1.56 แสนล้านบาท ว่า ขณะนี้ฝ่ายจัดการอยู่ระหว่างเร่งปรับรายละเอียดบางส่วนของแผนให้สอดคล้องกับ สถานะทางการเงิน และสถานการณ์แข่งขันของการบินไทยที่เปลี่ยนแปลงไปไปของการบินไทย คาดว่าจะเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาได้ภายในเดือนมี.ค. นี้

โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนการบินไทยได้นำเสนอความคืบหน้าในการจัดทำแผนจัดหาเครื่องบินเบื้องต้นเสนอให้บอร์ดพิจารณารับทราบไปแล้ว 1 ครั้ง และต้องนำแผนกลับมาปรับแก้ไขรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการขายเครื่องบินใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาการบินไทยมักจะถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขายเครื่องบินเก่าที่ปลดระวางไม่ได้ และใช้เวลาในการขายนานจนสร้างภาระค่าเสื่อมราคาสะสมจำนวนมากให้กับบริษัท

“เราต้องกลับมาปรับแก้แผนจัดหาฯ ใหม่ โดยครั้งนี้จะต้องทำแผนการขายเครื่องบินให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้บอร์ดได้มองเห็นภาพรวมของการจัดหาและขายเครื่องบินว่าสอดคล้องกันอย่างไร เบื้องต้น การบินไทยจะปรับแผนการขายเครื่องบินที่ปลดระวางใหม่ทั้งหมด โดยจะใช้วิธีการแลกเครื่องบินเก่า หรือเครื่องที่ปลดระวางรอการขาย กับเครื่องบินใหม่ที่เตรียมจัดหา เพื่อให้การซื้อและขายเครื่องบินทำได้เร็วขึ้น และยังช่วยลดภาระค่าเสื่อมราคาของเครื่องบินเก่าที่จอดรอการขายนานอีกด้วย”

นายสุเมธ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ฝ่ายจัดการของการบินไทยอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินและกรมบัญชีกลาง เพื่อขอแก้ไขระเบียบ หลักเกณฑ์ของรัฐวิสาหกิจ ภายใต้พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ พ.ศ. 2560 เพื่อให้การบินไทยสามารถใช้วิธีการแลกเปลี่ยน หรือใช้วิธีการชำระราคาด้วยสิ่งของได้ด้วย นอกเหนือไปจากการใช้รูปแบบการซื้อและการขาย เท่านั้น

“ต่อไปนี้การจัดหาเครื่องบินของการบินไทยจะใช้รูปแบบการหาเครื่องเก่าไปพร้อมๆ กับการขายเครื่องเก่า หรือใช้วิธีแลกเปลี่ยนภายใต้สัญญาฉบับเดียว เบื้องต้นตั้งเป้าที่จะแลกเครื่องบินเก่าที่ปลดระวาง จำนวน 17 ลำจากจำนวนเครื่องที่มีทั้งหมด 82 ลำ กับเครื่องบินใหม่ที่อยู่ในแผนการจัดหา โดยจะเริ่มแลกได้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปจนถึงปี 2567 หรือภายในระยะ 5 ปีต่อจากนี้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายสายการบินในโลกใช้วิธีการแลก หรือ แม้กระทั่งกองทัพของไทยก็เคยใช้วิธีนี้ในการแลกรถเก่ากับรถใหม่”

สำหรับรูปแบบการจัดหาเครื่องบิน 38 ลำ นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้วิธีซื้อหรือเช่า ซึ่งขณะนี้การบินไทยได้มีการจัดทำข้อมูลทั้งในส่วนของรูปแบบการซื้อและการเช่า เพื่อเปรียบเทียบต้นทุนไว้ภายในแผนเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งชนิด จำนวน ของเครื่องบินด้วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีนี้การบินไทยจะมีการรับมอบเครื่องบินเช่า โบอิ้ง 777-300 ER จำนวน 2 ลำ จากที่เช่าทั้งหมด 3 ลำ เนื่องจากปีหน้าสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) จะมีการบังคับใช้ระเบียบใหม่เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการบิน หากไม่เช่าเครื่องแบบใหม่มาบินจะทำให้เครื่องการบินไทยบินเข้ายุโรปไม่ได้ จึงต้องเร่งจัดหาด้วยการเช่ามาใช้ก่อน เพื่อไม่ให้กระทบการให้บริการในเส้นทางยุโรป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน