กทท. ตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ดันท่าเรือคลองเตย เป็นสมาร์ต คอมมูนิตี้ ชงบอร์ด อนุมัติ ก.พ.นี้

กทท. ตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ดันท่าเรือคลองเตย เป็นสมาร์ตคอมมูนิตี้ ชงบอร์ด อนุมัติเดือน ก.พ.นี้

กทท.ผุดสมาร์ตคอมมูนิตี้ – นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการตรวจติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ว่า ได้เร่งรัดให้กทท. พัฒนาที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ในชุมชนคลองเตย (Smart Community) วงเงิน 7,500 ล้านบาท บนพื้นที่ 58 ไร่ ซึ่งมีแผนก่อสร้างเป็นอาคารพักอาศัยสูง 25 ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวม 6,144 ยูนิต โดยให้เร่งทำความเข้าใจกับชุมชน 1.2 หมื่นครัวเรือน ให้เสร็จภายในเดือนพ.ค.นี้ โดยเปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย รวมทั้งต้องเร่งจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ควบคู่ไปด้วย คาดว่าเวลาราว 6 เดือน หากไม่ติดปัญหาจะเปิดประมูลและเริ่มก่อสร้างอาคารหลังแรกภายในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ ยังขอให้ กทท. พิจารณาความเป็นไปได้ในการนำท่าเรือภูมิภาคที่ประสาบปัญหาการขาดทุน เช่น ท่าเรือระนอง ท่าเรือเชียงแสน และท่าเรือเชียงของ ไปเปิดประมูลเพื่อให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในกิจการภาครัฐ (พีพีพี) เพื่อยกระดับการบริหารจัดการ และเพิ่มช่องทางการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการหารายเพิ่มรายได้ให้ท่าเรือ และพิจารณาทบทวนอัตราค่าเช่าเช่าสินทรัพย์และพื้นที่ท่าเรือให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร รองผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) สายวิศวกรรม กล่าวถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้เป็น Smart Community (สมาร์ต คอมมูนิตี้) ว่า โครงการ มีระยะเวลาดำเนินการระหว่างปีงบประมาณ 2559-2578 โดยมีกรอบวงเงินโครงการอยู่ที่ 9,856 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณเพื่อการก่อสร้าง 8,417 ล้านบาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างสำรวจประชากรคลองเตย 26 ชุมชน และจัดทำแผนแม่บท การรื้อย้ายชุมชน ร่างประกวดราคา (ทีโออาร์) การออกแบบโครงการ และจัดทำผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ซึ่งที่ผ่านมา มีการต่อต้านจากชุมชนคลองเตย เรื่องสิทธิประโยชน์ โดยชุมชนอ้างว่า ไม่มีส่วนร่วมในการออกแบบสำรวจ

สำหรับแผนการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) บนพื้นที่ 2,353 ไร่นั้น กทท. แบ่งแผนพัฒนาออกเป็น 1. พื้นที่ในเขตรั้วศุลกากรใช้ในกิจการ กทท. จำนวน 943 ไร่ หรือประมาณ 40% ของพื้นที่ทั้งหมด 2. พื้นที่เอกชนเช่าเชิงพาณิชย์ (ที่ดินและอาคารพาณิชย์) 313 ไร่ หรือราว 13% ของพื้นที่ทั้งหมด 3. พื้นที่เอกชนเช่าเพื่อสังคม 203 ไร่ หรือ 9% ของพื้นที่ทั้งหมด 4. หน่วยงานของรัฐขอเช่าใช้ 160 ไร่ ประมาณ 7% ของพื้นที่ทั้งหมด โดยพื้นที่สัดส่วนเหล่านี้ เป็นพื้นที่ที่สร้างรายได้ให้กับ กทท.

ส่วนพื้นที่ที่เหลืออีกราว 734 ไร่ แบ่งออกเป็น พื้นที่ทางสัญจร 200 ไร่ พื้นที่หน่วยงานรัฐขอใช้ 218 ไร่ พื้นที่นอกเขตรั้วศุลกากรใช้ในกิจการ กทท. 118 ไร่ และพื้นที่ชุมชนแออัด 198 ไร่ รวมคิดเป็นสัดส่วน 31% ของพื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพทั้งหมด ดังนั้นหาก กทท. สามารถจัดสรรพื้นที่ และพัฒนาตามแผนสมาร์ตซิตี้ คอมมูนิตี้ ได้แล้วเสร็จ มั่นใจว่าจะสร้างรายได้ให้กับองค์กรได้เพิ่มเติม

“กทท. อยู่ระหว่างเตรียมจัดตั้งบริษัทในเครือเพื่อบริหารสินทรัพย์คาดว่าจะเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) กทท. พิจารณาอนุมัติภายในเดือนก.พ.นี้ และจะเสนอให้กระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติจัดตั้งบริษัทฯ ได้ภายในปีงบประมาณนี้ หรือภายในเดือนต.ค. 2563”