‘สมคิด’ สั่งแบงก์ออมสินช่วยเคลียร์หนี้ข้าราชการ-เน้นดูแลกลุ่มลูกค้าฐานราก พร้อมหาวิธีแก้ประชาชนถือบัตรเครดิตมากมายบางคนมีถึง 9 ใบ

‘สมคิด’ สั่งแบงก์ออมสิน – นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานให้กับธนาคารออมสิน ว่า ได้สั่งการให้ธนาคารออมสิน เร่งหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการหาแนวทางดูแลการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับข้าราชการ โดยเรื่องนี้ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องการช่วยผ่อนคลายภาระของคนไทยที่สั่งสมมานาน จากการมีภาระหนี้ที่สูงมาก จนบางรายไม่มีทางใช้หนี้คืนได้ โดยให้ไปเร่งพิจารณาว่าจะดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้กลุ่มดังกล่าวกลับมายืนได้อีกครั้ง ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดจะต้องอยู่ภายใต้กรอบ และกฎเกณฑ์ที่เหมาะสม

“เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญและกำชับมาว่าให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยให้ธนาคารออมสิน ไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ส่วนเรื่องหนี้บัตรเครดิตปัจจุบันคนเป็นหนี้ตรงนี้กันเยอะ บางคนถือบัตรเครดิต 9 ใบ ตรงนี้ก็ต้องเข้าไปดูว่าจะดำเนินการอย่างไรได้ หากปรับลดอัตราดอกเบี้ยส่วนนี้ได้ก็ต้องลดลงมา ทุกอย่างพูดมาชัดเจน” นายสมคิด กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินเดินหน้าดูแลเศรษฐกิจฐานราก ไม่ใช่แค่การปล่อยสินเชื่อ แต่ต้องช่วยพัฒนาให้เศรษฐกิจฐานรากเติบโตได้อย่างเข้มแข็งตั้งแต่ระดับบุคคล ไปจนถึงวิสาหกิจชุมชน โดยธนาคารออมสินต้องเข้าไปดูว่าตรงส่วนไหนมีความจำเป็น และต้องการสินเชื่อก็เร่งเข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้สินเชื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาตัวเอง โดยมองว่าธนาคารออมสินไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ แต่เป็นธนาคารเพื่อการพัฒนา ดังนั้นออมสินจะต้องเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนทุกคน โดยประชาชนทุกคนจะต้องมีสิทิ์ในการเข้าถึงบริการทางการเงินของออมสินทุกรูปแบบ

นายสมคิด กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ธนาคารออมสินจะต้องมีระบบติดตามที่ดีผ่าน โดยการดึงระบบ Big Data เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน จึงอาจจำเป็นจะต้องมีการลงทุนในส่วนนี้เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการวิเคราะห์ และพิจารณาการปล่อยสินเชื่อสำหรับรายที่เหมาะสม โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันอีกต่อไป

“ตอนนี้ข้างล่างการเงินฝืดเคือง งบประมาณรัฐบาลก็ติดขัด ดังนั้นออมสินต้องเป็นตัวกระจายสภาพคล่อง แต่การดำเนินการก็ต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อด้วย ต้องดูว่าถ้าคนต้องการค้าขายก็พิจารณาให้ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคล สตาร์ตอัพ กลุ่มเอสเอ็มอี แต่ว่ารายใหญ่ไม่ต้อง และเน้นเรื่องการดูแลกลุ่มชุมชน วิสาหกิจชุมชน เป็นเครื่องมือในการดูแลสังคมผู้สูงอายุ และเป็นเครื่องมือจูงใจให้วิสาหกิจชุมชนจ้างผู้สูงอายุการทำงาน” นายสมคิด กล่าว

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า หลังจากนี้ธนาคารออมสินจะเข้ามาหารือกับกระทรวงการคลังถึงรูปแบบในการปรับโครงสร้างหนี้ของข้าราชการ ซึ่งกระทรวงการคลังก็พร้อมพิจารณาในส่วนที่จำเป็นและเหมาะสม โดยที่ผ่านมาได้เคยหารือเรื่องดังกล่าวกับธปท.แล้ว ซึ่งธปท.ให้ความสนใจ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับระบบการเงิน

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า หลังจากนี้ธนาคารจะเร่งหารูปแบบทางที่จะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ข้าราชการ ซึ่งคาดว่าจะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาในเบื้องต้นได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ และมาตรการจะออกมาอย่างชัดเจนและมีผลบังคับใช้ภายใน 1 เดือน โดยเบื้องต้น จะเป็นการยืดเวลาการชำระหนี้ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรูปแบบเครดิตเงินคืน เพื่อใช้ในการหักเงินต้นให้กับลูกหนี้ที่มีการผ่อนชำระหนี้ ที่มีสัดส่วนประมาณ 90% ของจำนวนลูกหนี้ข้าราชการที่มีทั้งหมด

“ลูกหนี้ข้าราชการที่อยู่ในกลุ่มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ให้กลับเข้าสู่กลุ่มลูกหนี้ชั้นดีก่อน ถึงจะสามารถเข้าสู่กระบวนการข้างต้นได้ โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ภายใน มี.ค. 2563” นายชาติชาย กล่าว

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีบุคลากรภาครัฐที่มีสินเชื่อกับธนาคารออมสิน ทั้งสิ้น 1,183,182 ราย เป็นข้าราชการพลเรือน/พนักงานรัฐวิสาหกิจรวม 600,129 ราย คิดเป็น 51% และ บุคลากรทางการศึกษา 489,060 ราย หรือคิดเป็น 41% ทหาร 48,052 ราย คิดเป็น 4% และ ตำรวจ 45,941 ราย หรือคิดเป็น 4% โดยจำนวนดังกล่าวคิดเป็นเงินกู้คงเหลือ 629,138 ล้านบาท เป็นเงินกู้ของข้าราชการพลเรือน/พนักงานรัฐวิสาหกิจ 185,722 ล้านบาท และบุคลากรทางการศึกษา 394,927 ล้านบาท ตำรวจ 28,064 ล้านบาท และทหาร 20,425 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน