กระทรวงการคลังพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุด 3 รับมือโควิด ย้ำให้มั่นใจถังไม่แตก-ไม่ต้องกู้ไอเอ็มเอฟ

คลังยันไม่กู้ไอเอ็มเอฟ – นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ สมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของชุดมาตรการเยียวยาและดูแลระบบเศรษฐกิจที่สืบเนื่องจากวิกฤตผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ระยะที่ 3 ซึ่งจะเป็นชุดมาตรการชุดใหญ่ที่สุด ซึ่งจะครอบคลุมทุกส่วน ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายกลางและรายย่อย และระบบการเงิน การลงทุน ซึ่งจะรวมถึงสถาบันการเงิน การลงทุนในตลาดทุน และหุ้นกู้ เป็นต้น

ทั้งนี้ ชุดมาตรการระยะที่ 3 นี้ จะจะออกมานี้จะครอบคลุมทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจ ส่วนงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการยังบอกไม่ได้ว่าเท่าไหร่ เพราะยังอยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการ แต่ยืนยันว่าจะใหญ่กว่า 2 ชุดมาตรการที่เคยออกมาก่อนหน้านี้รวมกัน โดยคาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วที่สุด

“ชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 3 นี้ จะมีขนาดที่เหมาะสม และมีความจำเป็นสำหรับดูแลเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ ทั้งการดูแลเยียวยาประชาชน ดูแลเยียวยาและสนับสนุนผู้ประกอบการ ดูแลระบบการเงินการลงทุนทั้งหมด ถือเป็นชุดมาตรการใหญ่ที่เตรียมจะออกมา ซึ่งจะมีมาตรการเป็นส่วนๆ อยู่ภายใต้ชุดมาตรการดังกล่าวว่าแต่ละเรื่องจะดูแลอะไร อย่างไรบ้าง ตรงนี้ถือเป็นงานเร่งด่วนของกระทรวงการคลัง” นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม กล่าวว่า ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทย ทำให้ที่ผ่านมารัฐบาลจำเป็นต้องเร่งออกมาตรการเพื่อดูแลถึง 2 ชุด เพราะรัฐบาลต้องการดูแลช่วยเหลือ เยียวยา และประคับประคองเศรษฐกิจตั้งแต่ระยะต้นของการแพร่ระบาด และยังมีความจำเป็นต้องออกมาตรการออกมาเพิ่มเติม ซึ่งยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดนี้จะไม่ทำให้รัฐบาลถังแตกแน่นอน เพราะการจัดสรรงบประมาณสำหรับชุดมาตรการดูแลเศรษฐกิจทั้งที่ได้ออกมาแล้วและกำลังจะออกมาในอนาคต สำนักงบประมาณได้มีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบและรัดกุม

“ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีถังแตกแน่นอน และยืนยันอีกเรื่องว่าไม่มีแน่นอนที่รัฐบาลจะกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ไม่มีเรื่องนี้เช่นกัน รัฐบาลมั่นใจว่าสามารถหาแหล่งเงินที่จะใช้ในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ทั้งจากงบประมาณและเงินส่วนอื่นที่จะเข้ามาเสริม ซึ่งยังมีเพียงพอ ไม่ต้องกู้ไอเอ็มเอฟ ไม่ได้ถังแตก ทุกอย่างมีการพิจารณาอย่างรัดกุม และดูให้สอดคล้องกันทั้งหมด โดยยืนยันว่าปัจจุบันรัฐบาลดำเนินการตามกรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด ทำให้มั่นใจได้ว่ารัฐบาลยังมีกำลังที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดต่อไปได้อย่างแน่นอน” นายอุตตม กล่าว

ส่วนการกู้เงินตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน นั้น ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาทางเลือกทั้งหมด ขณะที่กรณีที่มีการเสนอให้มีการใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โอนงบประมาณของส่วนราชการต่างๆ เพื่อใช้ในการดูแลระบบเศรษฐกิจนั้น รมว.คลัง ระบุว่า ยังไม่อยากให้คิดว่าจะต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อมาทดแทนอีกอย่างหนึ่ง เพราะตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดูทางเลือก โดยเฉพาะสำนักงบประมาณที่มีการประสานงานกับกระทรวงการคลังอย่างใกล้ชิด ว่าจะใช้งบประมาณส่วนใดในการจัดการวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นครั้งนี้ได้บ้าง ดังนั้นจึงไม่มีการโยกงบประมาณเพื่อมาทดแทนส่วนที่ต้องทำตอนนี้

สำหรับข้อเสนอของธุรกิจการบินในการขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เพื่อใช้ในการดูแลสภาพคล่องในการทำธุรกิจนั้น สามารถเข้ามาใช้ซอฟต์โลน วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งธนาคารออมสินได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลได้ออกมาเพื่อช่วยดูแลภาคธุรกิจในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว

อย่างไรก็ดี ยังบอกไม่ได้ว่าภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจจริง (จีดีพี) ในปีนี้ จะไปจบที่ไหน เพราะยังไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเดินต่อไปถึงไหน หรือว่าจะจบยังไง ผลกระทบจะไปถึงไหน แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีแน่นอน ส่วนตัวเลขจีดีพีที่ ธปท. ได้ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวติดลบ 5.3% นั้น เป็นเรื่องที่สะท้อนว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้มีความซีเรียส รุนแรง รัฐบาลอยากให้ทุกส่วนมองภาพเศรษฐกิจขณะนี้ให้ลึกลงไปว่าสิ่งที่เกิดตอนนี้ไม่ใช่ความผิดใคร การเยียวยา ดูแล บรรเทา ประคอง รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น และประเทศไทยมีความพร้อมจากมาตรการที่ได้ออกไปก่อนหน้านี้ ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้ทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน