นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว. คมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมเร่งรัดติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่าย ปี 2563 ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ไม่รวมงบรัฐวิสาหกิจ ว่า ปีงบประมาณ 2563 กระทรวงคมนาคมได้รับงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐรวมทั้งสิ้น 20,8317 ล้านบาท แบ่งออกเป็นรายจ่ายประจำ 37,792 ล้านบาท คิดป็น 18% และงบรายจ่ายลงทุน 170,525 ล้านบาท คิดเป็น 82% โดยในส่วนนี้แบ่งออกเป็นงบปีเดียว 100,442 ล้านบาท งบผูกพันเดิม 52,121 ล้านบาท และงบผูกพันใหม่ 17,961 ล้านบาท
สำหรับขณะนี้ประเทศไทยกำลังเจอกับปัญหาการแพ่รระบาดของไวรัสโควิด-19 ปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งปัญหาสงครามการค้ามหาอำนาจที่ต่อเนื่องมาจากปีก่อน ดังนั้นกระทรวงจึจำเป็นต้องบริหารงบประมาณปี 2563 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการ ซึ่งได้มีการกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายในเดือนมี.ค. ต้อง เบิกจ่ายให้ได้ 40% เม.ย. 48% พ.ค. 57% มิ.ย. 65% ก.ค. 77% ส.ค. 88% และก.ย. 100%
ดังนั้นจึงสั่งให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดปรับแผนการเบิกจ่ายในช่วงเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลประกาศพ.ร.ก.ฉุกฉิน ซึ่งโครงการส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการจัดทำทีโออาร์เพื่อเปิดประมูล และวางแผนลงนามในสัญญาในช่วงเดือนพ.ค. โดยกำหนดเป้าหมาย 13 หน่วยงานในสังกัดทำแผนเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยในเดือนพ.ค. จะต้องเบิกจ่ายให้ได้ 42% หรือ 8.7 หมื่นล้านบาท มิ.ย. 66% หรือ 1.37 แสนล้านบาท ก.ค. 82% หรือ 1.78 แสนล้านบาท ส.ค. 92% หรือ 1.91 แสนล้านบาท ซึ่งเท่ากับเป้าหมายของรัฐบาลและต้องเบิกจ่ายให้ได้ 100% หรือ 2.08 แสนล้านบาทในเดือนก.ย. นี้
“ผมได้กำชับ และสอบถามผู้บริหารทุกหน่วยงานให้เร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ตามที่กำหนดไว้ ซึ่งทุกหน่วยงานยืนยันว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้า ซึ่งผมจะกำหนดทั้งหมดนี้เป็นตัวชี้วัดการทำงานของแต่ละหน่วยงาน และจะนำไปใช้ประกอบการพิจารณาแต่งตั้ง โยกย้ายในช่วงปลายปีด้วย ดังนั้นผู้บริหารทุกหน่วยงานต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายให้ดีตามเป้าหมาย ต้องติดตามทุกเดือนเพื่อให้การเบิกจ่ายงบสามารถลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และสามารถแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้”
อย่างไรก็ตาม สำหรับการปรับลดงบประมาณหน่วยงานในสังกัดเพื่อนำไปช่วยเหลืองบแก้ไขปัญหาโควิด-19 นั้น ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานประสานสำนักงบประมาณในการปรับแผนงบประมาณไม่ต้องปรับลดโครงการ แต่ปรับแผนการผูกพันงบประมาณแทน
