กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม แนะ 5 อุตสาหกรรมในครัวเรือน ทำเงินช่วงวิกฤตโควิด ทั้ง สมุนไพรไทย แปรรูปอาหาร-ผลไม้ งานคราฟต์ สิ่งทอ และต้องผสมค้าออนไลน์

วันที่ 16 เม.ย. นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) เปิดเผยว่า กสอ.วางแนวทางปั้นงานสร้างรายได้เยียวยาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีวิสาหกิจชุมชน รวมถึงผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบ สถานประกอบการและผู้ประกันตนได้รับความเสียหายด้านรายได้และว่างเว้นจากการทำงานจากการปิดบริการชั่วคราว โดยเฉพาะสถานประกอบการ 35,068 แห่ง และผู้ประกันตน 644,136 คน ให้สามารถสร้างอาชีพทำเงินได้ด้วย 5 อุตสาหกรรมครัวเรือน ครอบคลุมประเภทสมุนไพร อาหาร เครื่องดื่ม แฟชั่น และของใช้ภายใต้แนวคิด “ปั้น ปรุง เปลี่ยน เอสเอ็มอีให้ดีพร้อม (DIProm)”

โดยถือเป็นโอกาสดีของกลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยในธุรกิจครัวเรือนที่น่าสนใจด้วยการสร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์ มีโอกาสเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 20,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 18,200 ล้านบาท โดยใช้ภูมิปัญญาที่มีอัตลักษณ์อย่างการนำพืชสมุนไพร หรือพืชที่ไม่ใช่พืชเศรษฐกิจหลักมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล อาทิ สบู่เหลวล้างมือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย แชมพู และอาหารเสริมสุขภาพ ฟ้าทะลายโจรน้ำขิงสำเร็จรูป ควบคู่กับการพัฒนาสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นและตราสินค้าให้มีความแตกต่าง เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร แม้ปัจจุบันภาคการเกษตรยังคงได้รับผลกระทบหนักจากข้อจำกัดด้านการกระจายผลผลิตและการส่งออก รวมถึงปัญหาราคาตกต่ำจากสินค้าล้นตลาด แต่การแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรสู่ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปที่สามารถเก็บรักษาได้นานในอุณหภูมิปกติ และคงรสชาติ สี กลิ่นเดิมของอาหารนั้นๆ ได้แก่ เกษตรและผู้ประกอบการ อาทิการใช้เทคโนโลยีฟรีซดราย (Freeze Drying) ในเมนูอาหาร ผัก หรือผลไม้และเทคโนโลยีอบแห้ง ถือเป็นหนึ่งกลยุทธ์สร้างราย โดยปีนี้ กสอ.ได้เตรียมงบประมาณ 5 ล้านบาทสำหรับโครงการเสริมสร้างศักยภาพอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปแบบครบวงจรเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ 160 ราย และพัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอาหาร 5 ผลิตภัณฑ์

กลุ่มแปรรูปผลไม้ ในช่วงที่คนไทยตื่นตระหนกกับการแพร่ระบาดของโรคติดโควิด-19หนึ่งในวิธีลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ คือ การดื่มเครื่องดื่มที่มีวิตามินซีดังนั้น ธุรกิจในครัวเรือน ที่สามารถดำเนินการได้และเป็นการสร้างรายได้เสริมด้วยการนำผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงนำมาแปรรูปในน้ำผลไม้พร้อมดื่ม อาทิ น้ำส้มน้ำฝรั่ง น้ำกีวี น้ำสตรอเบอร์รี่ น้ำมะนาว ลูกหม่อน และผักผลไม้หลากสีล้วนเป็นเครื่องดื่มเสริมการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันทั้งสิ้นสำหรับกลุ่มธุรกิจแปรรูปผลไม้ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ โดยปีนี้ กสอ.เตรียมงบประมาณเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปกว่า 28 ล้านบาทเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ 1,400 ราย และพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป 200 ผลิตภัณฑ์

กลุ่มสิ่งทอ ผู้ประกอบการสิ่งทอสามารถต่อยอดวัตถุดิบผ้าอย่าง “ผ้ามัสลิน” สู่หน้ากากผ้าได้เนื่องจากผ้าดังกล่าว มีประสิทธิภาพในการป้องกันละอองฝอยได้ดี ประกอบกับกระแสของผลิตภัณฑ์จากเส้นใยธรรมชาติที่ได้รับความนิยมและเป็นเทรนด์สิ่งทอในอนาคตจึงเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการสิ่งทอในการพัฒนานวัตกรรมสิ่งทอสีเขียว อาทิ‘ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม’ ผ้าทอจากธรรมชาติที่ให้คุณค่าทางวัฒนธรรม‘กระเป๋าแฟชั่นจากเส้นใย’ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตผลทางการเกษตร ด้วยความคิดสร้างสรรค์

กลุ่มงานคราฟต์รักษ์โลก เนื่องจากกระแสกรีนมาร์เก็ต (Green Market) ที่เน้นการเลือกใช้วัสดุหรือการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยังเป็นเทรนด์ที่มาแรงในปีนี้และอีกหลายปีข้างหน้า ดังนั้น อุตสาหกรรมหัตถกรรม สามารถระดมสมองต่อยอดแนวคิดปั้น “วัตถุดิบท้องถิ่น” สู่ “งานคราฟต์รักษ์โลก”ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่แต่คงความโดดเด่นทางวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ อาทิ กระเป๋ากระจูดไซส์มินิ ดีไซน์เก๋สำหรับใส่สมาร์ทโฟน หรือหน้ากากอนามัย ทำให้อุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรมเป็นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพสูงและน่าจับตามอง โดยปีที่ผ่านมามีมูลค่า ทางเศรษฐกิจสูงถึง 8.7 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดีผู้ประกอบการสามารถประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เข้ามาเป็นช่องทางเสริมเพื่อจัดจำหน่ายสินค้าในภาวะวิกฤตได้ อาทิ เฟซบุ๊ก (Facebook)ไลน์ (Line) อินสตาแกรม (Instagram) ตลอดจนการขนส่งแบบเดลิเวอรี่ (Delivery) นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังสามารถเรียนรู้บนออนไลน์ไลฟ์สตรีม ภายใต้โครงการ “ปั้น SMEs ค้าออนไลน์สู้วิกฤตโควิด-19” จากทาง กสอ.โดยเปิดคอร์สการอบรมหลากหลาย อาทิ การกระตุ้นยอดขายด้วยกูเกิ้ลแอดเวิร์ด (GoogleAdwords) การขายสินค้าผ่านยูทูป (You Tube) และเทคนิคกระตุ้นยอดขายด้วยภาพถ่ายและวีดีโอเพื่อเพิ่มทักษะด้านการตลาดแพลตฟอร์มออนไลน์ และสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน