นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานพิธีปล่อยรถคาราวาน “รถเร่ธงฟ้าฝ่าภัยโควิด-19” จำนวน 350 คัน ณ ตลาดไท จ.ปทุมธานี ว่า โครงการดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่างสมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย, สมาคมตลาดสดไทย, ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดตราด, กลุ่มวิสาหกิจชุมชนด้านผักและผลไม้จากจ.ตราด นครปฐม และนนทบุรี ที่มีความเห็นร่วมกันว่า ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการค้าส่งค้าปลีกผักและผลไม้ในช่วงวิกฤตโควิด ที่ทำให้การขายและการบริโภคผลไม้ลดลงจากการที่นักท่องเที่ยวหายไปจำนวนมาก และการส่งออกยังติดปัญหาเรื่องการขนส่งระหว่างประเทศอยู่

โดยกระทรวงพาณิชย์ต้องการช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศให้มากขึ้น รวมทั้งหาทางช่วยกระจายสินค้าออกไปให้ถึงประชาชนได้โดยเร็วที่สุดและถูกที่สุด ซึ่งมาตรการดูแลไวรัสโควิดไม่ให้แพร่กระจายทำให้ประชาชนออกมาซื้อสินค้าได้น้อยลงกว่าปกติ กระทรวงพาณิชย์จึงเห็นว่า ต้องใช้วิธี “เอาของไปให้ลูกค้า” มากขึ้น แทนที่จะรอให้ “ลูกค้ามาหาซื้อของ” เหมือนในช่วงปกติ ซึ่งจากการหารือกับผู้ประกอบการค้าส่ง เกษตรกรก็เห็นตรงกันว่า จะช่วยเสริมการขายในแนวทางดังกล่าว

รถคาราวาน “รถเร่ธงฟ้าฝ่าภัยโควิด-19” ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะนำสินค้าไปหาลูกค้าถึงบ้าน แม้ว่าการขนส่งมาที่ตลาดไท จะติดช่วงเวลาเคอร์ฟิวอยู่บ้าง แต่ที่ตลาดได้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ขนส่งสินค้าที่มาถึงช่วงดึก โดยจัดที่พักนอนให้จนกว่าจะออกไปได้อีกครั้งในช่วงเวลาตีสี่ สำหรับผลไม้ระยะนี้เริ่มออกมากขึ้นแล้ว เช่น มะม่วง ซึ่งได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัด และกรมต่างๆ ร่วมกันหาแนวทางการกระจายผลไม้ในประเทศ โดยกำลังจัดทำฐานข้อมูลสำหรับผลไม้แต่ละชนิดทั้งอุปสงค์และอุปทานที่จะออกมา และหากลุ่มที่จะช่วยกระจายผลไม้ได้ ซึ่งจะใช้กลไกลของสหกรณ์การเกษตรที่มีอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 800 แห่ง มาช่วยเสริมกับพาณิชย์จังหวัดในการรวบรวมผลไม้ เสร็จแล้วจะขอความร่วมมือจากไปรณีย์ไทยและแพล็ตฟอร์มการค้าต่างๆ ช่วยทำแคมเปญสนับสนุนการบริโภคผลไม้ไทยเกรดพรีเมียม ซึ่งปกติจะส่งออกแต่ปีนี้จะได้กินของดีในราคาประหยัด และในด้านการตลาดก็จะระดมทั้งช่องทางปกติ เช่น ตลาดในชุมชน ร้านค้าธงฟ้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และช่องทางออนไลน์ต่อไป ซึ่งส่วนออนไลน์ จะมีการเปิดตัวพาร์ตเนอร์แพลตฟอร์มต่างๆ อีกครั้งในช่วงปลายเดือนเม.ย. นี้

สำหรับ “รถเร่ธงฟ้าฝ่าภัยโควิด” นั้น ไม่ได้ขายแต่ผักและผลไม้ แต่เป็นรถที่จะนำสินค้าอุปโภคบริโภคสำคัญ เช่น ไข่ไก่เบอร์ 3 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันปาล์ม เจลล้างมือ ปลากระป๋อง ข้าวหอมไทย และผลไม้ เช่น มะม่วง ไปขายให้แก่ประชาชนที่จุดใกล้บ้านเพื่ออำนวยความสะดวก และบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้และผักไปด้วยพร้อมกัน โดยรถเร่กับข้าวและผลไม้ ที่มีเข้าร่วมโครงการกับกระทรวงพาณิชย์ มีจำนวน 350 คัน ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นแนวทางที่เสริมกับช่องทางการซื้อขายปกติได้เป็นอย่างดี

ในด้านการส่งออกนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากทูตพาณิชย์ว่า คำสั่งซื้อและอุปสงค์สำหรับสินค้าเกษตรและอาหารไทยมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลไม้ ข้าว ไก่ และอาหารสัตว์ แต่ในขณะนี้เส้นทางการขนส่งต่างๆ ระหว่างประเทศยังมีปัญหาจากมาตรการป้องกันโควิดอยู่บ้าง จึงทำให้ยังไม่สามารถผลักดันการส่งออกได้เต็มที่ แต่ตนสั่งให้เตรียมการหารือกับภาคเอกชนไว้แล้ว ซึ่งในวันที่ 18 เม.ย. จะไปพบกับผู้ประกอบการค้าข้าว และในสัปดาห์หน้าจะพบกับกลุ่มเกษตรกร และผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ไก่ อาหารทะเล รวมทั้งจะพบกับภาคบริการที่มีศักยภาพในลำดับต่อไป โดยกระทรวงพาณิชย์จะผลักดันการค้าทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศอย่างเต็มที่ เพื่อระบบเศรษฐกิจการค้าเดินหน้าได้ และให้ประโยชน์ตกถึงมือพี่น้องเกษตรกรทุกกลุ่มให้ได้มากที่สุด เพราะถือเป็นฐานรากของประเทศที่สำคัญยิ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน