นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบกลาง ประจำปี 2560 และผูกพันงบประมาณปี 2560-61 วงเงินรวม 1,705 ล้านบาท เพื่อให้กรมบัญชีกลางไปจัดทำบัตรสวัสดิการ 2 โครงการ คือ 1.โครงการบัตรสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ครอบคลุมข้าราชการ 4.5 ล้านคน 2.โครงการจัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้มีสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 ครอบคลุมกลุ่มคนมีรายได้น้อยกว่า 14 ล้านคน โดยทั้ง 2 โครงการนี้ สามารถใช้ได้ทันภายในวันที่ 1 ต.ค. นี้

สำหรับการจัดทำบัตรสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการนั้น มีเป้าหมายเพื่อควบคุมปัญหาการขอเบิกค่ารักษาพยาบาลซ้ำซ้อน ข้าราชการเข้ารับบริการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิและครอบครัวส่อไปในทางทุจริต แบบเวียนเทียนรับยาไปขายต่อ ซึ่งแต่ละปีมีงบประมาณที่เพิ่มขึ้นถึง 4,000-5,000 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลต้องจ่ายเงินในส่วนดังกล่าวถึงปีละ 70,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลัง เสนอของบประมาณมาใช้ในโครงการนี้ 124 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายการจัดทำบัตร ค่าจัดส่งบัตร พัฒนาระบบจ่ายตรง ระบบตรวจสอบค่าใช้จ่าย จัดตั้งคอลเซ็นเตอร์ และการประชาสัมพันธ์

ส่วนการจัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น เป็นการทำบัตรสวัสดิการให้กับคนมีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนรับสวัสดิการของรัฐที่เปิดให้มาลงทะบียนก่อนหน้านี้ เพื่อให้รัฐมีฐานข้อมูลประชาชน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสวัสดิการภาครัฐลงไปยังประชาชน โดยเสนอของบมาดำเนินโครงการ 1,581 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายการจัดทำบัตร ค่าพัมนาโปรแกรม จัดตั้งคอลล์เซนเตอร์ และค่าบริหารจัดการบัตรในปีแรก เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถนำบัตรไปใช้แบ่งเบาภาระได้ทั้งการเดินทางรถเมล์ขสมก. และบขส. สามารถซื้อสินค้าราคาถูกได้จากร้านธงฟ้า หรือใช้จ่ายเป็นค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปาสำหรับผู้มีรายได้น้อยด้วย

“ทั้ง 2 โครงการ จะออกมาเป็นบัตรที่มีใบหน้าข้อมูลของผู้ถือบัตรแสดงเอาไว้ เพื่อแสดงความถูกต้องในการใช้บริการ โดยตัวบัตรที่ใช้สวัสดิการรักษาพยาบาลจะจัดส่งไปให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิเองตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ ส่วนบัตรสวัสดิการรัฐ สามารถรับบริการขนส่งได้ทุกรูปแบบ บัตรนี้จะเชื่อมโยงกับตัวร่วมหรือบัตรแมงมุม อีกทั้งเมื่อใช้แล้วเงินในบัตรหมดก็สามารถเติมเงินได้อีกด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน