กพท. คาดเดือน ก.ย. เปิดเที่ยวบินต่างประเทศ เล็งปลดล็อกขายตั๋ว 100% ไม่ต้องเว้นที่นั่ง แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอื่นๆ

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือข้อกำหนดและหลักการในการกลับมาเปิดทำการปฏิบัติการบินขนส่งผู้โดยสาร กรณีที่บินระหว่างประเทศ ร่วมกับผู้ประกอบการสนามบิน และสายการบินของไทย และต่างประเทศ รวม 15 สายการบินวันนี้(16มิ.ย.)ว่า ขณะนี้ยังไม่มีสายการบินใดตัดสินใจเปิดบินเส้นทางระหว่างประเทศ เนื่องจากต้องดูเงื่อนไขในการเปิดประเทศก่อน และแนวปฏิบัติในการเดินทางว่าจะคุ้มค่ากับการเปิดทำการบินหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นจะต้องมีอัตราบรรทุกแต่ละเที่ยวบินเฉลี่ย 77% จึงจะคุ้มทุน และทำการบินได้

“กพท. ต้องรอการพิจารณาจากกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ก่อนว่าจะพิจารณาขยายหรือไม่ขยายประกาศห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ไทยชั่วคราว ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ แต่คาดว่าเดือน ก.ย.63 จะเริ่มมีการทำการบินในเส้นทางระหว่างประเทศ ส่วนสถานการณ์การบินในปีนี้ คาดว่าปริมาณผู้โดยสารจะลดลงราว 70% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีผู้โดยสารปิดตัวเลขอยู่ราว 165 ล้านคน”

นายจุฬา กล่าวเพิ่มเติมถึงการจะเปิดบินระหว่างประเทศว่า จะต้องพิจารณาแต่ละประเทศประเทศว่ามีความปลอดภัยในการเดินทาง และเปิดให้คนไทยเดินทางหรือไม่ และดูกลุ่มเดินทางที่มีความจำเป็น และมีความเสี่ยงน้อยที่สุด เช่น กลุ่มนักธุรกิจ เพราะกลุ่มนี้หากจะเดินทางต้องตรวจเช็คสุขภาพจากบริษัทต้นสังกัดก่อนแล้ว จึงปลอดภัยมากกว่า กลุ่มนักท่องเที่ยว

ส่วนขั้นตอนการประเมินการเปิดให้บริการเส้นทางบินนั้น กระทรวงสาธารณะสุขจะพิจารณาความเหมาะสมของประเทศปลายทาง จากนั้นจะประสานมายัง กพท. โดย กพท.จะแจ้งให้สายการบินทราบถึงประเทศปลายทางที่เปิดให้เดินทาง พร้อมทั้งชี้แจงถึงมาตรการที่ประเทศปลายทางบังคับปฏิบัติ เพื่อให้สายการบินประเมินความต้องการ

นายจุฬา กล่าวอีกว่า สำหรับข้อปฏิบัติมาตรฐานสุขอนามัยเพื่อป้องกันโควิดสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ อาจเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ไอเคโอ) และกระทรวงสาธารณสุข ที่ประกาศเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลได้เปิดให้สายการบินสามารถจำหน่ายบัตรโดยสารตามที่นั่งได้ 100% ไม่ต้องเว้นที่นั่ง เหมือนกับเส้นทางบินภายในประเทศ

ส่วนระเบียบปฏิบัติการโดยสารเครื่องบิน ยังคงเงื่อนไขให้ผู้โดยสายต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง ห้ามเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม ยกเว้นเที่ยวบินที่ใช้เวลาทำการบินตั้งแต่ 2 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ต้องใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด เพื่อลดการสัมผัสระหว่างลูกเรือและผู้โดยสาร นอกจากนี้ กำหนดให้สายการบินต้องตรวจสอบเปลี่ยนไส้กรองอากาศบนเครื่องบอนตามระยะรอบ รวมทั้งต้องกันที่นั่ง 3 แถวหลังสุดไว้สำหรับกรณีเจอผู้โดยสารป่วย สำหรับเที่ยวบินที่ทำการบินนานกว่าเกิน 2 ชั่วโมง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน