นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมุ่งมั่นจะผลักดันยอดขายสินค้าในกลุ่มทีวีระดับพรีเมียมที่เป็น โอแอลอีดี ทีวี 4 เค (OLED TV 4 K) ขึ้นเป็นผู้นำตลาดทีวีพรีเมียมด้วยการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 40% จากปัจจุบันมีอยู่ 30% เป็นอันดับ 2 ของตลาดสมาร์ตทีวีที่มีสัดส่วนที่ 66% จากตลาดรวมทีวีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท โดยล่าสุดเปิดตัว LG OLED TV จำนวน 4 ซีรี่ส์ใหม่ 7 รุ่นและซีรี่ส์ เรือธง เป็น LG OLED TV ซีรี่ส์ G7T

สำหรับซีรี่ส์ใหม่นี้นอกจากจะคมชัดแบบทั้งภาพและเสียงตามคุณสมบัติของ OLED TV แล้ว พัฒนาเพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคในการรับชมความบันเทิงผ่านทางออนไลน์และวิดีโอสตรีมมิ่งที่มากขึ้น เราพัฒนาระบบปฏิบัติการ webOS3.5 ให้ใช้งานง่าย สะดวก เพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ให้ง่ายต่อการเข้าถึงคอนเทนต์ที่ต้องการ ในขณะที่ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 99,000 บาท ส่วนซีรี่ส์เรือธง LG OLED TV G7T ขนาด 77 นิ้ว ราคา 599,990 บาท และขนาด 65 นิ้ว ในราคา 299,990 บาท ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาที่ลดลงมาจากปีที่แล้ว จึงเชื่อว่าจะมีผลให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ดีขึ้น

การทำตลาดวางงบไว้ 150 ล้านบาทเพื่อกิจกรรมการตลาด การสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อเพิ่มการรับรู้กับผู้บริโภคทั่วไป โดยจะเน้นหนักในช่องทางออนไลน์ และจะเพิ่มการเข้าถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายให้ได้กว่า 200 รายทั่วประเทศ คาดว่าทั้งปีจะมียอดขาย LG OLED TV 4 k ปีนี้ที่ 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วมียอดขาย 3,000 ล้านบาท จากยอดขายรวมทั้งปีของกลุ่มทีวีปีนี้ตั้งยอดขายไว้ 8,000 ล้านบาท เติบโต 10% ซึ่งในช่วง 5 เดือนของปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมายแล้ว

ส่วนภาพรวมตลาดทีวีปีนี้น่าจะกลับมาเติบโตได้ 1-2% จากปีที่แล้วติดลบ 1-2% มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท โดยทีวีพรีเมียมเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะ OLED TV ที่เติบโตสูงสุด หรือ 3 เท่าตัวต่อปี และปีนี้เช่นกันน่าจะเติบโต 3 เท่า จึงเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดให้เติบโตในปีนี้ และแอลจีปีนี้นอกจากเป้าหมายจะเป็นผู้นำในตลาดพรีเมียมาแล้ว ในขณะที่ภาพรวมทีวีแอลจีปีนี้คาดว่าส่วนแบ่งตลาดจะเพิ่มเป็น 23% จากปัจจุบันมีอยู่ 21% เป็นอันดับ 2 ของตลาดรวม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน