นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรอ.เตรียมส่งหนังสือไปยังโรงงานอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 5,860 แห่ง และจะได้ประสานสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อแจ้งให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศมีหนังสือแจ้งเตือนผู้ประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบ ให้เร่งปรับตัวให้สอดคล้องกับภาวะปกติใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และพฤติกรรม (นิว นอร์มอล) หลังการระบาดของโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของประชาชนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ให้ความสำคัญเรื่องของเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านทางออนไลน์ และการใช้ระบบดิจิตอลมากขึ้น เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม หากโรงงานอุตสาหกรรมไม่ปรับตัวรองรับนิว นอร์มอล จะเสี่ยงต่อการดำเนินกิจการ และไม่สามารถแข่งขันได้

ปัจจุบัน กรอ. มีการเตรียมความพร้อมที่จะนำผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมเข้าสู่นโยบายแฟคเตอรี่ 4.0 สอดคล้องกับพฤติกรรมนิว นอร์มอล ตั้งเป้าหมายที่จะให้บริการผู้ประกอบการ ทั้งในรูปแบบการขอใบอนุญาต ร.ง.4 การจ่ายค่าธรรมเนียม การยื่นคำขอและการออกใบสำคัญเกี่ยวกับวัตถุอันตรายหรือกากอุตสาหกรรม การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษ รวมถึงการพัฒนาการบริการอื่นๆ แบบออนไลน์ครบวงจรได้ในปี 2565 ช่วยลดภาระและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทางมายังกรมโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้นผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมจึงต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับหน่วยงานรัฐ และติดต่อกับลูกค้า เป็นต้น

โดยโครงการในปีงบประมาณ 2564 กรอ. ได้มีโครงการต่างๆ ที่สอดคล้องกับการเข้าสู่ยุคนิว นอร์มอล เช่น ระบบบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ระบบการรับรองตนเองของผู้ประกอบกิจการโรงงาน (Self-Declaration) และการขึ้นทะเบียน/กำกับดูแลผู้ตรวจสอบเอกชน (Third Party) ระบบข้อมูลเพื่อการจัดการความปลอดภัยด้านสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม ระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยมลพิษระยะไกล โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงกับระบบต่างๆ ที่ได้ลงทุนในปีงบประมาณ 2563 เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ระบบเชื่อมโยงเอกสารราชการกับฐานข้อมูลประชาชนและบริการภาครัฐ ระบบบูรณาการข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการวัตถุอันตราย พัฒนาระบบทำเนียบสารเคมีและวัตถุอันตรายแห่งชาติ เป็นต้น

“กรอ. มีแผนที่จะพัฒนาโดยให้ความรู้กับโรงงานอุตสาหกรรมบางส่วน โดยเฉพาะโรงงานขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคการเปลี่ยนแปลงในภาวะปกติใหม่ หรือ นิว นอร์มอล ซึ่งที่ผ่านมา กรอ. ได้เร่งผลักดันการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาร่วมประยุกต์ใช้ ในการกำกับดูแลโรงงาน รวมถึงการนำนวัตกรรมด้านความปลอดภัยมาประยุกต์ใช้ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้สอดรับตามแนวทางนโยบายแฟคเตอรี่ 4.0 ของรัฐบาล และเพื่อให้ระบบการทำงานมีความทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ทาง กรอ. ก็พร้อมจะเดินหน้าสานต่อการดำเนินงานต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในยุคดิจิตอลอย่างต่อเนื่องต่อไป” นายประกอบ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน