นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟร่วมกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) เพื่อบูรณาการเดินเชื่อมต่อการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน บูรณาการการลงทุน การจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและลดปัญหาเส้นทางผ่านเข้าเมืองที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตชุมชนว่า สนข. ได้หารือร่วมกับกรมทางหลวง และการรถไฟแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการบูรณาการแนวเส้นทางรถไฟและแนวถนนมอเตอร์เวย์เข้าด้วยกัน และได้นำเสนอแผนแม่บท (มาสเตอร์แพลน) แนวเส้นทางร่วมรถไฟและมอเตอร์เวย์ ที่เป็นไปได้เบื้องต้นว่าจำนวน 8 สายทาง รวมระยะทางก่อสร้าง 4,930 กิโลเมตร

โดยจะแบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 แนว คือ 1. แนวเหนือ-ใต้ จำนวน 3 สายทาง ระยะทาง 2,620 กิโลเมตร ได้แก่ เชียงราย-สงขลา ระยะทาง 1,660 กิโลเมตร , หนองคาย-แหลมฉบัง ระยะทาง 490 กิโลเมตร และ บึงกาฬ-สุรินทร์ ระยะทาง 470 กิโลเมตร

และ 2. แนวตะวันออก-ตะวันตก จำนวน 5 สายทาง ระยะทางรวม 2,310 กิโลเมตร ได้แก่ ตาก-นครพนม ระยะทาง 710 กิโลเมตร , ตาก-อุบลราชธานี ระยะทาง 880 กิโลเมตร , กาญจนบุรี-สระแก้ว ระยะทาง 310 กิโลเมตร , กาญจนบุรี-ตราด ระยะทาง 220 กิโลเมตร และภูเก็ต-สุราษฏร์ธานี ระยะทาง 190 กิโลเมตร

“หลังจากนี้ สนข. จะต้องทำการศึกษารายละเอียดแอคชั่นแพลนและทำการออกแบบ 8 สายทางตามมาสเตอร์แพลนซึ่งจะใช้เวลาศึกษาราว1ปี เบื้องต้นก่อสร้างนำร่อง 3 เส้นทางย่อยที่มีความสำคัญก่อน คือ 1. โคราช-ขอนแก่น-หนองคาย 2. โคราช-บุรีรัมย์ และ 3. ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร คาดว่าจะเริ่มเวนคืนและก่อสร้างได้ในปี 2565-66”

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นอกจากนี้ จะต้องศึกษรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมว่าจะใช้รูปแบบใดเบื้องต้นอาจจะให้เปิดให้เอกชนทั้งไทยและต่างชาติเข้าร่วมลงทุน หรืออาจจะใช้เงินจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ (TFFIF) เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้เงินลงทุนมาก รวมทั้งจะต้องศึกษารูปแบบการเวนคืนที่ดินที่ต้องมีการบูรณาการพื้นที่ร่วมกันระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย และกรมทางหลวง ซึ่งตนมองว่าควรเป็นการเวนคืนพร้อมกันในคราวเดียว และจะต้องเวนคืนเผื่อพื้นที่เพื่อก่อสร้างสาธารณูปโภคโดยรอบด้วย เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และที่อยู่อาศัยไปพร้อมกันเลย เพื่อให้เกิดการพัฒนาสร้างเมืองใหม่ด้วย

สำหรับการออกแบบก่อสร้างนั้นได้ให้นโยบายว่าควรเป็นแนวเส้นทางที่ตัดตรงให้มากที่สุด ไม่ต้องลากผ่ากลางเข้าไปยังชุมชนจนส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตชาวบ้านจนมีกรณีร้องเรียน รวมทั้งจะต้องมีการก่อสร้างถนนคู่ขนาน และก่อสร้างทางแยกต่างระดับทุกๆ 10 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อการดินทางเข้าไปยังชุมชนด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน