นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวมอบนโยบายให้กับผู้บริหาร พนักงานธนาคาร ภายหลังเข้ารับตำแหน่งวันแรก ว่า ต้องการให้ออมสินเป็นธนาคารเพื่อสังคม วางบทบาทดูแลประชาชน เศรษฐกิจฐานราก คนจน และเป็นกำลังหลักของประเทศในการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

“ไม่ได้หมายความว่าที่ผ่านมาเราไม่ได้ทำ เราทำอยู่ แต่บทบาทต้องชัดเจนมากขึ้น ต้องเป็นบทบาทที่เป็นรูปธรรมจริงๆ ต้องมียอดสินเชื่อในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจริง ยอดคนที่ช่วยได้จริงๆ และมีบทบาทช่วยประเทศจริงๆ ไม่ได้มุ่งภาพลักษณ์ แต่ต้องการผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง

อย่างไรก็ดี ธนาคารเพื่อสังคมไม่ได้หมายความว่ากำไรต้องลดลง ยกตัวอย่างกลุ่มนอนแบงก์ กำไรมากมาย ดอกเบี้ยสูง 24-28% ถ้าออมสินสามารถช่วยลดกำไรส่วนเกินตรงนี้มาได้ และมีกำไรที่พอดีๆ ก็สามารถช่วยคนได้ไปพร้อมกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกแข่งขันเชิงพาณิชย์

“อันไหนที่มันอาจจะมากไป เกินเลยไป หรือทำแล้วอาจจะแข่งขันกับแบงก์พาณิชย์เองและเราเองก็ไม่ได้กำไรด้วย ก็อาจจะต้องมานั่งทบทวนดู อาจจะลดขนาด หรืออาจจะเปลี่ยนจุดเน้น หรือจุดโฟกัสบ้าง ยังทำธุรกิจโดยทั่วไป เพื่อเอากำไรมาหล่อเลี้ยง มาช่วยคนจน อันนี้เป็นความชัดเจน”

นายวิทัย กล่าวว่า ต่อไปจะเห็นธุรกรรม ธุรกิจต่างๆ ที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือสังคม ออมสินจะกลับมาสู่ตัวตนจริง คือ ช่วยคนจน ช่วยฐานราก อยู่กับสังคม อยู่กับชุมชน ภารกิจแต่เดิมทำมาดีแล้ว แต่ต้องต่อยอดไป ทำส่วนนี้เป็นหลัก กำไรไม่ได้ลดลง

อย่างไรก็ดี ความท้าทายของออมสินจะอยู่ที่เรื่องหนี้เสีย และการกันสำรองตามคำสั่งของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยหนี้เสียปัจจุบันก่อนที่จะพักชำระหนี้ 31 มี.ค. 2563 มีหนี้ที่ค้างชำระ 31-90 วันอยู่ที่ 3.3 แสนบัญชี มีหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้ในปัจจุบันกำลังจะครบอีก 4 แสนบัญชี รวม 7 แสนกว่าบัญชี จึงเป็นเหตุให้ออมสินต้องพักชำระหนี้ เพราะว่าเดือนเม.ย. ดูแล้วหนี้เสียน่าจะไหลแน่

ควบคู่กับความท้าทายเรื่องที่ ธปท. สั่งตั้งแต่ปลายปี 2562 ให้ธนาคารสำรองเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องสินเชื่อเพิ่มขึ้น 8.3 หมื่นล้านบาท เป็นความท้าทายที่จะต้องหาทางออกว่าจะจัดการกับตัวเลขนี้อย่างไร ถ้าต้องสำรอง 5 หมื่นล้านบาท ก็จะเป็นสิ่งที่จะต้องเป็นภาระที่จะต้องสำรองเราในอนาคต จะทำให้ดีที่สุด และเชื่อมั่นว่าเราจะยังมีกำไรที่ดีๆ ต่อเนื่องต่อไป

นายวิทัย กล่าวว่า เวลาบอกเราเป็นโชเชี่ยลแบงก์ จะต้องยืนอยู่บนโซเชี่ยลแบงก์ที่มีความแข็งแรง ในเรื่องดิจิทัลมาก ต่อไป mymo ต้องเป็นหลัก ต้องสามารถทำ KYC ลูกค้าได้ ไม่ต้องมาสาขา ต้องตรวจบูโรผ่าน mymo ได้ ต้องทำสัญญาผ่าน mymo ได้ และสปริ้นเงินให้ลูกค้าเลย อันนี้จะเกิดขึ้นในเวลาไม่นานนัก แต่จะทยอยเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ธุรกรรมบางอย่างอาจจะขออนุญาตลดลงบ้าง การโฆษณา การจัดกิจกรรม กอล์ฟ ไปต่างประเทศ หรือกิจกรรมต่างๆ จะขออนุญาตลดลงบ้าง ทำเท่าที่จำเป็น ไม่ได้ไม่ให้ทำ แต่ดูความคุ้มค่าเป็นหลัก อะไรที่มีความกังวลสงสัย สังคมมีคำถามกันก็เลิกซะ ได้สั่งการชัดเจนไปแล้ว ต้องอยู่บนความโปร่งใส ต้องตอบได้ ที่ผ่านมาไม่ได้มีอะไรผิด ทุกคนทำด้วยความปรารถนาดี แต่การทำประชาสัมพันธ์ จัดกิจกรรมก็อาจจะลดน้อยลงไป กลับมายืนอยู่บนตัวตนของเรา ตัวตนของธนาคารออมสิน

“จากนี้ไปเราคงไม่แข่งเรื่องความใหญ่โตของงานที่จัด งานอะไรก็ไม่แข่งเรื่องความใหญ่ ไม่แข่งเรื่องจำนวนคนที่เข้ามา ไม่แข่งเรื่องเงินที่บริจาค ไม่โชว์ป้าย ไม่มีการเกณฑ์เงิน กำหนดเงินไม่มีทั้งสิ้น อันนี้ต้องขออนุญาต วันแรกมาต้องขออนุญาตชี้แจงเลย”นายวิทัยกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน