นายวรเทพ จักรวาลวิบูลย์ ผู้จัดการสายผลิตภัณฑ์เพื่อธุรกิจ เลอโนโว ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดโน้ตบุ๊ค ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อกว่า 2-3 เดือนที่ผ่านมาเติบโตอย่างมาก เป็นผลมาจากผู้บริโภคต้องซื้อไว้สำหรับทำงาน และเรียนที่บ้าน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และเลอโนโว จึงเห็นโอกาสจึงได้เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ ThinkBook Plus เป็นแล็ปท็อป เพื่อธุรกิจยุคดิจิตอลและตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานในยุคดิจิตอลได้ตรงความต้องการ

เพราะการศึกษา พบว่า คนทำงานในยุคปัจจุบันกว่า 60% คือ กลุ่มคนในยุคเจนแซด (Gen Z) และมิลเลนเนียล ซึ่งคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยี และการมัลติทาสกิ้งผ่านอุปกรณ์หลายเครื่อง และจากผลสำรวจพบว่า การทำงานแบบนี้อาจไม่ทำให้เกิดประสิทธิผลมากที่สุด เนื่องจากการใช้สมาธิที่ต้องสลับไปมาระหว่างงาน ทำให้เสียเวลาโดยเฉลี่ยถึง 2.1 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากนี้กลุ่มคนทำงานในภูมิภาคเอเชียให้ความสนใจกับการนำอุปกรณ์ทันสมัยมาปรับใช้ เพื่อช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น

สำหรับ ThinkBook Plus พัฒนาต่อยอดมาจากแล็ปท็อปรุ่นก่อนหน้าอย่าง ThinkBook ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว โดย ThinkBook Plus แตกต่างจากโน้ตบุ๊ก หรือแล็ปท็อปทั่วไป มีหน้าจอหลักแบบ FHD ขนาด 13.3 นิ้ว และหน้าจอ e-Ink ขนาด 10.8 นิ้วบนฝาเครื่อง เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานโดยเฉพาะมัลติทาสเกอร์ สามารถจดบันทึกข้อความหรือไอเดียด้วยปากกา Precision Pen ที่มากับเครื่อง ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมทั้งการทำงาน และการใช้ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ อีกทั้งหน้าจอ e-Ink ยังผลิตขึ้นจากกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass NBT วางราคาจำหน่ายในเบื้องต้นไว้ประมาณ 35,000 บาท

“ในยุคนี้ธุรกิจต้องการเห็นผลลัพธ์ของการทำงานแบบมัลติทาสกิ้ง เราจึงนำเสนอ ThinkBook Plus แล็ปท็อปเกรดธุรกิจที่มีจอแสดงผล e-Ink ที่จะตอบโจทย์การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เลอโนโวมุ่งมั่นที่จะทำให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มั่นใจว่า ThinkBook Plus จะไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่จะยังทำให้เกิดให้นิยามใหม่ของการทำงานแบบมัลติทาสกิ้ง สำหรับแรงงานยุคใหม่อีกด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน